เม็กซิโกผลักดันแผนพัฒนาตลาดข้าวโพด เพื่อความมั่นคงทางอาหาร

รัฐบาลเม็กซิโกได้แถลงนโยบาย ‘แผนการตลาดข้าวโพดแห่งชาติเพื่อความยั่งยืน’ (Plan Nacional de Comercialización Justa, Directa y Sustentable del Maíz) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการเสริมสร้างความมั่นคงทางอาหารและความเป็นธรรมในตลาดสินค้าเกษตร (Cosechando Soberanía) โดยแผนดังกล่าวจะเริ่มดำเนินการในรัฐเชียปัส (Chiapas) และขยายไปยังอีกเจ็ดรัฐ ได้แก่ โออาซากา (Oaxaca), เวรากรูซ (Veracruz), กัมเปเช (Campeche), ตาบาสโก (Tabasco), กินตานาโร (Quintana Roo), โมเรโลส (Morelos) และเกร์เรโร (Guerrero)

แผนการตลาดใหม่นี้มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการเข้าถึงตลาดของเกษตรกรรายย่อย เพิ่มปริมาณการผลิต คุณภาพและมาตรฐานสินค้า และการปฏิบัติตามสัญญาและข้อผูกพันทางการเงิน นอกจากนี้ ยังเป็นการส่งเสริมการพัฒนาชนบทอย่างยั่งยืน รวมไปถึงการกระจายสินค้าเพื่อเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ โดยจะเป็นการดำเนินงานร่วมกันระหว่างสำนักงานตัวแทนของรัฐบาลกลางและหน่วยงานส่วนท้องถิ่นของกระทรวงเกษตรและการพัฒนาชนบท (Secretaría de Agricultura y Desarrollo Rural : SADER)

ในการประชุมสมัชชาครั้งแรกเกี่ยวกับการเชื่อมโยงตลาด นาย Héctor Arronte ผู้ประสานงานทั่วไปด้านการตลาดและการเงินของ SADER ได้เน้นถึงความสำคัญของการแก้ไขปัญหาโครงสร้างในห่วงโซ่อุปทานข้าวโพดของเม็กซิโก ซึ่งรวมถึงการขาดการเชื่อมโยงระหว่างการผลิต การเก็บรักษา และการบริโภค ปัญหาเหล่านี้ส่งผลให้เกษตรกรประสบกับความไม่แน่นอนด้านรายได้ และผู้บริโภคขาดความมั่นใจในตลาด

แผนดังกล่าวยังได้รับการสนับสนุนจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในอุตสาหกรรมข้าวโพด เช่น ผู้จัดหาพันธุ์เมล็ดพันธุ์ ผู้ให้บริการผลิตภัณฑ์เกษตรอินทรีย์ ผู้ให้บริการสินเชื่อ และบริษัทการตลาดระดับชาติที่เป็นสมาชิกของหอการค้าอุตสาหกรรมข้าวโพดแห่งชาติ (CANAMI) โดยมีเป้าหมายร่วมกันในการส่งเสริมสิทธิของประชาชนในการเข้าถึงอาหารในปริมาณที่เพียงพอ มีคุณภาพ และมีคุณค่าทางโภชนาการ

โอกาสของผู้ประกอบการไทย นโยบายดังกล่าวแสดงให้เห็นแนวโน้มที่เม็กซิโกให้ความสำคัญกับการพัฒนาศักยภาพการผลิตสินค้าเกษตรและอาหารในประเทศ ซึ่งจะเป็นโอกาสให้ผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีการเกษตร (Agri-tech) เช่น เครื่องจักรขนาดเล็กสำหรับเกษตรกรรายย่อย หรือเทคโนโลยีบรรจุภัณฑ์และการเก็บรักษาเมล็ดพันธุ์ เทคโนโลยีการเก็บเกี่ยว ซึ่งจะเข้ามามีบทบาทในห่วงโซ่การผลิตของเม็กซิโกมากขึ้น ทั้งนี้ ในปี 2024 เม็กซิโกมีการนำเข้าเครื่องจักรกลการเกษตร (HS CODE 8433) เช่น เครื่องนวด เครื่องตัดหญ้า เครื่องอัดฟาง เป็นต้น โดยมีมูลค่าการนำเข้าจากทั่วโลกรวม 351.28 ล้านเหรียญสหรัฐ ประเทศไทยเป็นแหล่งนำเข้าลำดับที่ 23 มีมูลค่าเพียง 8,640.50 เหรียญสหรัฐ ดังนั้น จึงมีโอกาสสำหรับผู้ประกอบการไทยในการขยายตลาดเครื่องจักรกลการเกษตรในเม็กซิโกอีกมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มสินค้าที่มีความคุ้มค่า ใช้งานง่าย และตอบโจทย์ความต้องการของผู้ผลิตซึ่งเป็นเกษตรกรรายย่อย ซึ่งเป็นกลุ่มที่ภาครัฐเม็กซิโกให้ความสำคัญในการส่งเสริมและพัฒนาให้มีศักยภาพเพิ่มขึ้น

 

——————————————————————

ที่มา

Mexico Business

https://mexicobusiness.news/agribusiness/news/mexico-launches-new-corn-commercialization-plan

Import Statistic from Banco de Mexico

jaJapanese