ปลาสวยงามแบ่งออกเป็นปลาสวยงามน้ำจืดและปลาสวยงามน้ำทะเล ซึ่งถือเป็นอุตสาหกรรมเกิดใหม่ในจีนที่มีศักยภาพและมีแนวโน้มพัฒนาอย่างมาก ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา อุตสาหกรรมปลาสวยงามของจีน ได้พัฒนาและเติบโตจนกลายเป็นอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าระดับหมื่นล้านหยวน โดยปลาสวยงามน้ำจืด เป็นสัตว์น้ำสวยงามที่ได้รับความนิยมจากผู้บริโภคชาวจีน จากสถิติมูลค่าในอุตสาหกรรมปลาสวยงาม ปลาสวยงามน้ำจืดครองสัดส่วนตลาดสูงที่สุดในตลาดปลาสวยงามทั้งหมดของจีน ในขณะที่ปลาสวยงามของไทยซึ่งเป็นปลาสวยงามในเขตเมืองร้อน มีความหลากหลายทางสายพันธุ์และมีความสวยงาม สอดคล้องกับความต้องการของตลาดจีน ความต้องการดังกล่าว สะท้อนถึงโอกาสของอุตสาหกรรมปลาสวยงามของไทยในตลาดจีน
ปัจจุบัน จีนมีเขตอุตสาหกรรมปลาสวยงามหลักสองแห่ง ได้แก่ พื้นที่ชายฝั่งทะเลภาคตะวันออกและชายฝั่งทะเลตอนใต้ (มณฑลกวางตุ้ง มณฑลเจียงซู มณฑลซานตงฯลฯ) และภาคเหนือ (นครปักกิ่ง นครเทียนจิน มณฑลจี๋หลิน ฯลฯ) จากข้อมูลพบว่า มณฑลกวางตุ้งมีมูลค่าผลผลิตรวมการเพาะเลี้ยงปลาสวยงามสูงสุดในจีน ซึ่งเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมปลาสวยงามทั้งหมดของจีน ในขณะที่มณฑลเจียงซูครองอันดับหนึ่งของมณฑลที่มีผลผลิตการเพาะเลี้ยงปลาสวยงามน้ำจืดของจีน โดยในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มูลค่าผลผลิตได้เพิ่มขึ้นทุกปี และกลายเป็นอุตสาหกรรมมูลค่าหมื่นล้านหยวน โดยในจำนวนนี้ ปลาสวยงามน้ำจืดครองสัดส่วนตลาดที่สูง โดยคิดเป็นมากกว่า 85% ของมูลค่าผลผลิตในปี 2566 อย่างไรก็ดี เนื่องจากปัจจัยต่างๆ อาทิ การควบคุมสิ่งแวดล้อม การเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ และโรคต่างๆ ส่งผลให้ผลผลิตการเพาะพันธุ์ของจีนโดยรวมลดลง
เมื่อพิจารณาความต้องการของตลาด ปัจจุบัน ชาวจีนแสวงหาสิ่งที่สร้างสุนทรียภาพในการดำรงชีวิต การพักผ่อนหย่อนใจ และสร้างความบันเทิง ซึ่งปลาสวยงามมีคุณสมบัติที่สามารถช่วยคลายเครียดและตกแต่งสภาพแวดล้อมให้เกิดความสวยงาม การเลี้ยงปลาสวยงามในบ้านจึงกลายมาเป็นวิถีชีวิตที่ได้รับความนิยมในจีน โดยเฉพาะในกลุ่มชนชั้นกลางในเมืองและคนรุ่นใหม่ ตามข้อมูลการวิจัยตลาด มูลค่าตลาดของตลาดสัตว์เลี้ยงในตู้ปลา ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา มีอัตราการเติบโตต่อปีที่ร้อยละ 11.8 โดยปลาสวยงามถือเป็นสัดส่วนขนาดใหญ่ ทั้งนี้ คนหนุ่มสาวชาวจีนนิยมเลี้ยงปลาสวยงามขนาดเล็ก และจะนิยมเลี้ยงปลาสวยงามบนโต๊ะทำงาน จากรายงานการสำรวจตลาดที่เผยแพร่โดยแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซของจีน อาทิ แพลตฟอร์มเถาเป่า ซึ่งมีการเปิดเผยว่าการเลี้ยงปลาในสํานักงานได้กลายเป็นหนึ่งในรูปแบบหลักของการบริโภคในอุตสาหกรรมสัตว์น้ำสวยงาม โดย 42% ของผู้บริโภคที่ทำการสํารวจ เลี้ยงปลาเพื่อบรรเทาความเครียด ในขณะที่ ผู้บริโภค 16% เลี้ยงปลาสวยงามตกแต่งโต๊ะทำงาน และผู้บริโภค 15% เป็นความสนใจส่วนตัว โดยจากการวิเคราะห์ของผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมจีน พบว่าในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ฐานผู้บริโภคปลาสวยงามที่ขยายตัวมากขึ้นเรื่อยๆ การเลี้ยงปลาสวยงามที่บ้านและในสำนักงานของชาวจีน ได้ผลักดันการขยายตัวของตลาดปลาสวยงามอย่างมีนัยสําคัญ
ส่วนของการนำเข้าและส่งออกปลาสวยงามของจีน ตามข้อมูลจาก Global Trade Atlas ระบุว่า ในปี 2567 จีนมีมูลค่าการนำเข้าปลาสวยงาม 27,839,317 เหรียญสหรัฐ โดยจีนมีการนำเข้าจากไทยมากเป็นอันดับสามของการนำเข้าปลาสวยงามทั้งหมด รองจากอินโดนีเซีย และมาเลเซีย ตามลำดับ
เมื่อตลาดปลาสวยงามของจีนอิ่มตัวมากขึ้น การแข่งขันภายในประเทศจีนและจากต่างประเทศยังคงทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ผู้บริโภคมีตัวเลือกมากขึ้น อีกทั้งการเพาะพันธุ์ปลาสวยงาม ตามไม่ทันการเปลี่ยนแปลงของความต้องการของผู้บริโภคในตลาดจีน ส่งผลให้การนำเข้าปลาสวยงามของจีนลดลง
อย่างไรก็ดี จากข้อมูลการนำเข้าจะเห็นได้ว่าแหล่งนำเข้าปลาสวยงามหลัก มาจากประเทศเขตเมืองร้อน ทั้งนี้ พันธุ์ปลาสวยงามของไทยเป็นพันธุ์ในเขตเมืองร้อนและมีความหลากหลายทางสายพันธุ์ ซึ่งจะมีความแตกต่างกับพันธุ์ปลาสวยงามของจีน ถือว่าเป็นข้อได้เปรียบในตลาดจีน จากข้อมูลสัดส่วนการนำเข้าปลาสวยงามของจีน ที่จีนนำเข้าจากไทยมากเป็นอันดับสาม ยิ่งสะท้อนให้เห็นว่าอุตสาหกรรมปลาสวยงามของไทยมีโอกาสและศักยภาพในการขยายการส่งออกมายังประเทศจีนอย่างมาก
กฎระเบียบและมาตรการนำเข้าปลาสวยงามของจีน
1.สัตว์น้ำนำเข้าเพื่อการใช้สอย เพื่อการเพาะเลี้ยง และเพื่อความสวยงามต้องกำหนดสถานที่แยกกักกัน และดำเนินการเรื่องใบอนุญาตการตรวจกักกันโรคกับทางหน่วยงานด้านการตรวจสอบกักกันในแต่ละพื้นที่
2.การอนุมัติตรวจสอบกักกันสัตว์นำเข้า
ก่อนดำเนินการยื่นคำร้องขอใบอนุญาตการตรวจกักกันโรคสัตว์นำเข้า ผู้ประกอบการจะต้องตรวจสอบให้ชัดเจนก่อนว่าสินค้าที่ต้องการยื่นขออนุมัติมีอยู่ใน “บัญชีรายชื่อ/ประเภทสัตว์น้ำที่จีนอนุญาตให้นำเข้า” หรือไม่ ซึ่งสามารถตรวจสอบได้ที่ :
http://dzs.customs.gov.cn/dzs/2747042/3995815/3995864/3996810/index.html
ผู้รับหรือตัวแทนรับต้องยื่นขอใบอนุญาตการตรวจกักกันโรค โดยเอกสารยื่นขอใบอนุญาตฯประกอบด้วย:
(1) หลักฐานเอกสารนิติบุคคลของผู้นำเข้า
(2) ใบอนุญาตให้ใช้สถานที่ตรวจสอบกักกันสัตว์น้ำนำเข้าโดยเฉพาะ
(3) สัตว์น้ำนำเข้าจากประเทศหรือภูมิภาคผู้ส่งออกที่มีการเปลี่ยนถ่าย ณ ประเทศหรือภูมิภาคที่สาม เมื่อดำเนินการเรื่องใบอนุญาตตรวจกักกันโรค ผู้รับหรือตัวแทนจะต้องกรอกเส้นทางการขนส่งอย่างละเอียดและสถานการณ์การจัดส่งต่อไปยังประเทศหรือภูมิภาคที่สาม รวมถึงสถานการณ์การออกจากเขตควบคุมตรวจสอบของด่านศุลกากร การเปลี่ยนยานพาหนะ การแกะเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ และเข้าผ่านมายังสภาพแวดล้อมทางน้ำของประเทศหรือภูมิภาคที่สาม
3.สมัครเข้าสู่ระบบแพลตฟอร์มออนไลน์เพื่อยื่นเอกสารไปยังศุลกากรจีน (http://online.customs.gov.cn)
หมายเหตุ: หลังจากได้รับใบอนุญาตแล้ว ไม่สามารถทำการซื้อขาย หรือโอนใบอนุญาตได้
มาตรการการตรวจสอบกักกันสัตว์น้ำนำเข้า
ศุลกากรบังคับใช้กฎระเบียบการตรวจสอบกักกันสัตว์น้ำสวยงามที่นำเข้าอย่างเข้มงวดตาม “กฎระเบียบเรื่องการกักกันสัตว์ และพืชนำเข้าและส่งออกสาธารณรัฐประชาชนจีน” และข้อกำหนดที่ กฎหมายดังกล่าวบังคับใช้ “กฎระเบียบคุณภาพความปลอดภัยทางชีวภาพ” “กฎระเบียบกำกับดูแลและบริหารการตรวจสอบกักกันสัตว์นำเข้า” “กฎระเบียบการกำกับดูแลและบริหารจัดการการใช้สถานที่ตรวจสอบกักกันสัตว์นำเข้า”
1.สัตว์น้ำนำเข้าจะต้องดำเนินการตรวจกักกันโรคที่ด่านนำเข้าก่อน ซึ่งรวมถึงการตรวจสอบเอกสาร การฆ่าเชื้อและโรคป้องกันโรคระบาด และการดำเนินการตรวจสอบอื่นๆ ณ สถานที่จริง เป็นต้น
- สัตว์น้ำนำเข้าต้องดำเนินการแยกกักกัน ในสถานที่กักกันที่กำหนดไว้อย่างน้อย 14 วัน หลังจากการตรวจสอบ ณ สถานที่จริงว่าไม่ผ่านมาตรฐานของด่านนำเข้า จะดำเนินการส่งกลับหรือทำลาย
ปัญหาและอุปสรรคในการส่งออกปลาสวยงามของไทยไปจีน
1.ปัญหาด้านการขนส่ง : ระยะทางในการขนส่งจากประเทศไทยไปยังพื้นที่บางส่วนของประเทศจีนค่อนข้างไกล เนื่องด้วยปลาสวยงามมีข้อจำกัดที่เป็นอุปสรรคต่อการขนส่ง อาทิ การขนส่งใช้ระยะนานอาจทำให้ปลาสวยงามเกิดความเครียด เพิ่มความเสี่ยงต่อการเสียชีวิต สภาพแวดล้อมขณะการขนส่ง การขนส่งปลาสวยงามต้องมีคุณภาพน้ำ อุณหภูมิ ออกซิเจน และเงื่อนไขอื่นๆ การเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยของอุณหภูมิของน้ำ ความผันผวนของคุณภาพน้ำ หรือปริมาณออกซิเจนที่ไม่เพียงพอในระหว่างการขนส่ง อาจส่งผลต่อสุขภาพและอัตราการรอดตายของปลาสวยงามได้
2.ปัญหาด้านราคา : การส่งออกปลาสวยงามไปยังจีน มีต้นทุนค่าระวางขนส่ง ทำให้ปลาสวยงามของไทย ราคาสูงกว่าปลาสวยงามในจีน
3.ปัญหาด้านคู่แข่งทางการค้า : ตลาดปลาสวยงามของจีนมีการแข่งขันสูง มีผู้เพาะเลี้ยงทั้งภายในประเทศจีนและต่างประเทศ อีกทั้งมีสายพันธุ์ปลาสวยงามจำนวนมาก ทำให้ผู้บริโภคมีตัวเลือกเยอะ ทำให้เกิดการแข่งกันทางด้านราคา
ผลกระทบด้านเศรษฐกิจต่อประเทศไทย และแนวทางการปรับตัวของภาครัฐ ภาคเอกชน และผู้ประกอบการไทย
ปลาสวยงาม เป็นอีกหนึ่งสัตว์เลี้ยงที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน เนื่องจากมีความสวยงาม จึงถูกเลี้ยงไว้เพื่อประดับตกแต่งสถานที่ต่างๆ อีกทั้งเมื่อไม่กี่ปีมานี้ ชาวจีนรุ่นใหม่หันมานิยมเลี้ยงปลาสวยงามเพื่อคลายเครียดมากขึ้น
ในขณะที่ ปลาสวยงามไทยได้รับความนิยมอย่างมากในตลาดจีน อาทิ ปลากัดไทยได้รับความนิยมในหมู่ผู้บริโภคจีนชื่นชอบปลากัดเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีสีสันสวยงาม ท่วงท่าการว่ายน้ำที่สง่างาม และลักษณะการต่อสู้ที่เป็นเอกลักษณ์ ปลากัดไทยมีสายพันธุ์ยอดนิยมมากมายในท้องตลาดจีน อาทิ ปลากัดจีน ปลากัดฮาฟมูน ปลากัดหางมงกุฎ ปลากัดยักษ์ ฯลฯ นอกจากนี้ ยังมีปลาเสือตอไทยที่มีลายเสือสีทองและรูปลักษณ์ที่สง่างาม ได้กลายมาเป็นสัญลักษณ์แห่งฐานะสำหรับผู้เล่นชั้นนำในตลาดปลาสวยงามระดับไฮเอนด์ และมีปลาทองหัวสิงห์ไทยคุณภาพสูง ซึ่งกลายมาเป็นดาวรุ่งในตลาดจีน
อย่างไรก็ดี ปัจจุบันตลาดปลาสวยงามของจีนมีการแข่งขันสูง ตลาดปลาสวยงามของจีน มีผู้ผลิตและมีสายพันธุ์ปลาสวยงามจำนวนมาก และปลาสวยงามจากต่างๆ ประเทศ ดังนั้น ปลาสวยงามของไทย จำเป็นต้องมีพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันทั้งในด้านคุณภาพ ราคา ลักษณะเฉพาะตัว ฯลฯ เพื่อที่จะครองส่วนแบ่งทางการตลาดได้อย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการไทยควรเร่งพัฒนาการเพาะสายพันธุ์ใหม่ๆ เพื่อเพิ่มความหลากหลายทางสายพันธุ์ปลา เพื่อให้ตรงกับความต้องการของตลาดจีน นอกจากนี้ ไทยควรศึกษาเส้นทางการขนส่งใหม่ๆ เนื่องจากการระยะเวลาการขนส่งนานเป็นอุปสรรคต่อการส่งออกปลาสวยงามที่อาจเกิดความเสี่ยงต่อการตายของปลาได้ รวมถึงภาครัฐควรเร่งส่งเสริมการส่งออกปลาสวยงามโดยใช้กลยุทธ์ทางการตลาดในการสร้างชื่อเสียงปลาสวยงามของไทยให้เป็นที่รู้จัก โดยเน้นการประชาสัมพันธ์ตลาดกลุ่มผู้บริโภคระดับไฮเอนด์ โดยการออกบูธหรือการประชาสัมพันธ์ผ่านโซเชียลมิเดียของจีน
แหล่งที่มา :
สำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศประจำกรุงปักกิ่ง
http://www.thai.people.cn/n3/2024/0709/c517535-20191591.html
https://baijiahao.baidu.com/sid=1819380243966525511&wfr=spider&for=pc
ภาพ :https://699pic.com/image/haishuiguanshangyu.html
จัดทำโดย สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองกวางโจว