Aeon ใช้ Private Label เจาะตลาด MZ Generation

AEON ใช้กลยุทธ์เจาะตลาดผู้บริโภค MZ Generation (ช่วงอายุ 20-30 ปี) ด้วย Private Brand “Top Valu” โดยพัฒนาผลิตภัณฑ์ร่วมกับนักศึกษา ซึ่งเป็นคนรุ่นเดียวกับลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย

ธุรกิจค้าปลีกในญี่ปุ่น โดยเฉพาะร้านสะดวกซื้อ ห้างสรรพสินค้า และซูเปอร์มาร์เกต มี Private Label ที่ครอบคลุมประเภทสินค้าจำนวนมาก ตั้งแต่เครื่องอุปโภคบริโภคในชีวิตประจำวัน เสื้อผ้า เครื่องสำอางจนถึงอาหารสัตว์เลี้ยง ทั้งนี้ Private Label เดิมมีภาพลักษณ์ในการเป็นสินค้า “คุณภาพต่ำ ราคาถูก” ปัจจุบัน ได้รับการยอมรับในการเป็นสินค้า “คุณภาพเหมาะสมถึงดี ในราคาย่อมเยา” โดย “Top Valu” ของ AEON เป็น Private Label ที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับหนึ่งในญี่ปุ่น (ร้อยละ 23 ของการบริโภค Private Label ทั้งหมด) ปัจจุบัน มีผลิตภัณฑ์มากกว่า 2,500 SKU.

AEON ให้ความสำคัญกับการพัฒนา Private Label ตามแนวโน้มการบริโภคยุคใหม่ของ MZ Generation อาทิ พัฒนาเครื่องดื่มไร้แอลกอฮอล์ “19 Nineteen” ร่วมกับนักศึกษามหาวิทยาลัย Kanda เน้นสร้างรสชาติ และกลิ่นที่แปลกใหม่จากเครื่องเทศ ชา และผลไม้      เพื่อเป็นทางเลือกใหม่ๆ เพิ่มจากเครื่องดื่มทั่วไปอย่างน้ำอัดลม น้ำผลไม้ ซึ่งสอดคล้องกับ  เทรนด์ไม่บริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (Sobercurious) อีกทั้งเน้นการออกแบบบรรจุภัณฑ์ และการตั้งชื่อให้มีความโดดเด่น น่าสนใจ (เช่น Craft ginger ale, Mystery grenadine grapefruit, Ambiguous earl grey lemonade, Piao W Citrus Suede ฯลฯ) ซึ่งเป็นการสร้างคุณค่าทางอารมณ์ (Emotional value) ที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อ รวมถึงตอบสนองพฤติกรรมในการสร้างคอนเทนต์ในโซเชียลมีเดียอีกด้วย

จากความสำเร็จในการเพิ่มจำนวนลูกค้ากลุ่ม MZ อย่างมีนัยสำคัญของ “19 Nineteen”  โดยเฉพาะในสาขาที่ตั้งอยู่ใกล้มหาวิทยาลัย (AEON Retail เพิ่มขึ้นร้อยละ 104 และ My Basket เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 262 จากปีก่อนหน้า) AEON จึงเกาะกระแสความนิยมด้วยการออกผลิตภัณฑ์ Energy Drink “BAR-ish” และขนมขบเคี้ยว “Tokimeku Oyatsubu” ซึ่งได้รับการตอบรับดีเช่นกัน

———————————————————————————-

ที่มาของข่าว และภาพประกอบ : https://www.nikkei.com

jaJapanese