ที่มา : สำนักข่าว Bernama
การชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-payment) มีอัตราการเติบโตที่สูงกว่าในปีที่แล้ว โดยมูลค่ารวมของธุรกรรมทางการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์สำหรับการค้าปลีกที่เลือกเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 17มูลค่าสูงถึง 698,100 ล้านริงกิตมาเลเซีย ตามข้อมูลของของธนาคารกลางมาเลเซีย (BNM)
ในรายงานประจำปี 2567 ธนาคารกลางระบุว่า ธุรกรรมการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์โดยรวมเพิ่มขึ้นร้อยละ 28 เป็น 14,700 ล้านธุรกรรมเมื่อปีที่แล้ว เพื่มขึ้นจาก 11,500 ล้านธุรกรรมเมื่อก่อนหน้านี้โดยธนาคารออนไลน์ยังคงเป็นวิธีการที่ใช้กันอย่างแพร่หลายมากที่สุด โดยเพิ่มขึ้นร้อยละ 24 ในปี 2024การชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้มากที่สุดเป็นอันดับสองคือธุรกรรมเงินอิเล็กทรอนิกส์ โดยเพิ่มขึ้นร้อยละ 25 ในปี2024 เทียบกับร้อยละ 26 ก่อนหน้า การชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้มากที่สุดเป็นอันดับสามคือบัตรชำระเงิน ซึ่งเติบโตขึ้นถึง ร้อยละ20 ในปี2024 บัตรเดบิตคิดเป็นร้อยละ 68 ของธุรกรรมการชำระเงินด้วยบัตรทั้งหมด และการใช้บัตรเดบิตเติบโตเร็วกว่าบัตรเครดิตถึงสองเท่า (ร้อยละ24 และ ร้อยละ12)
ธนาคารกลางได้กล่าวเพิ่มเติมว่า การทำธุรกรรมผ่านบัตรแบบไร้สัมผัสยังคงได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากมีความรวดเร็วและสะดวกสบาย คิดเป็นร้อยละ 83 ของธุรกรรมบัตรชำระเงินในช่วงปีที่ผ่านมาโดยได้รับการสนับสนุนจากการใช้งาน E Wallet บนมือถือที่เพิ่มมากขึ้นในมาเลเซีย เช่น Apple Pay, Google Pay, และ Samsung Pay, เช่นเดียวกับการขยายระบบชำระเงินค่าผ่านทางแบบเปิดครอบคลุมทางหลวงต่างๆ มากขึ้น
การรับธุรกรรมชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในกลุ่มธุรกิจ โดยเฉพาะวิสาหกิจขนาดเล็ก โดยการใช้งาน DuitNow QR ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสะดวก ต้นทุนต่ำ และครอบคลุมพื้นที่กว้างขวาง อย่างในปี 2024 ที่ผ่านมา มีจุดชำระเงิน DuitNow QR ที่ลงทะเบียนแล้ว 2.6 ล้านจุดทั่วมาเลเซีย โดยเครือข่ายร้านค้า DuitNow QR ขยายขึ้นมีส่วนให้ธุรกรรมเพิ่มขึ้นมากกว่าสองเท่า โดยมีมูลค่าธุรกรรมรวมอยู่ที่ 31,100 ล้านริงกิต หากมองในแง่ของการขยายการเชื่อมโยงการชำระเงินของมาเลเซียข้ามพรมแดนผ่าน QR โดยรวมของทั้งนักท่องเที่ยวต่างชาติในมาเลเซีย และคนมาเลเซียที่เดินทางไปต่างประเทศ จำนวนธุรกรรมมีอัตราการเติบโตขึ้นมากกว่า 5 เท่า เป็น 4.1 ล้านธุรกรรม คิดเป็น 348.3 ล้านริงกิตในปี 2024
บทวิเคราะห์ผลกระทบ
ผลกระทบต่อผู้ประกอบการไทย
- การเติบโตของธุรกรรมชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ในมาเลเซียเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยที่ต้องการขยายธุรกิจไปยังตลาดมาเลเซียสามารถเข้าถึงลูกค้าได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับอีคอมเมิร์ซหรือการขายสินค้าออนไลน์ เช่น การใช้กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-wallets) หรือการชำระเงินผ่าน QR Code ที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็วในมาเลเซีย
- การชำระเงินผ่าน QR Code ที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็วในมาเลเซียและการเชื่อมโยงการชำระเงินข้ามพรมแดนผ่าน QR Code ยังช่วยให้ธุรกิจไทยที่มีการดำเนินการข้ามพรมแดน สามารถทำธุรกรรมได้สะดวกขึ้น การใช้ระบบเช่น DuitNow QR ทำให้ธุรกิจไทยที่จำหน่ายสินค้าหรือบริการในมาเลเซียสามารถลดขั้นตอนการชำระเงินที่ยุ่งยากและสร้างความสะดวกสบายให้กับลูกค้า
- ผู้ประกอบการไทยที่ต้องการขยายธุรกิจในต่างประเทศโดยเฉพาะในมาเลเซียจะต้องปรับตัวให้ทันกับเทคโนโลยีการชำระเงินใหม่ๆ เช่น การชำระเงินผ่านบัตรไร้สัมผัสและกระเป๋าสตางค์บนมือถือ รวมถึงการลงทุนในโซลูชันการชำระเงินที่ทันสมัย เพื่อให้สามารถรองรับลูกค้าในยุคดิจิทัลและสร้างความสะดวกสบายในการซื้อสินค้าหรือบริการ
ผลกระทบต่อนักลงทุนไทย
- นักลงทุนไทยที่สนใจการลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีการชำระเงินหรือระบบการเงินดิจิทัลในมาเลเซียสามารถมองเห็นโอกาสในการลงทุนในสตาร์ตอัปที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาแพลตฟอร์มการชำระเงินหรือการสร้างบริการที่เกี่ยวข้องกับการชำระเงินผ่านมือถือและ QR Code
- นักลงทุนที่ต้องการขยายธุรกิจในภูมิภาคอาเซียนสามารถเห็นศักยภาพในตลาดการชำระเงิน
ข้ามพรมแดน ซึ่งมีการเติบโตอย่างรวดเร็วและอาจเปิดโอกาสในการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานการชำระเงินดิจิทัลที่ครอบคลุมทั้งในมาเลเซียและประเทศเพื่อนบ้าน - นักลงทุนที่มีการลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการชำระเงินออนไลน์หรือการพัฒนาเทคโนโลยีที่สนับสนุนการชำระเงิน เช่น การพัฒนาแอปพลิเคชันทางการเงิน หรือโซลูชันด้านการเงินดิจิทัล สามารถเห็นการเติบโตของตลาดที่มีศักยภาพในมาเลเซียและอื่นๆ ในภูมิภาค
ความคิดเห็น สคต.
การเติบโตของการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ในมาเลเซียส่งผลดีต่อผู้ประกอบการไทยที่ต้องการขยายตลาดในต่างประเทศ โดยสามารถเข้าถึงลูกค้าได้ง่ายขึ้นผ่านระบบการชำระเงินที่สะดวกและรวดเร็ว นอกจากนี้ นักลงทุนไทยยังสามารถเห็นโอกาสในการลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการชำระเงินดิจิทัลและเทคโนโลยีทางการเงินในตลาดที่กำลังเติบโตนี้ได้อย่างมีศักยภาพ ทำให้ผู้ประกอบการไทยสามารถขยายการลงทุนทางธุรกิจไปยังมาเลเซีย และประเทศอื่นๆ อย่างไรก็ตาม การชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ยังคงมาพร้อมกับข้อกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัย ข้อมูลส่วนบุคคล และการฉ้อโกง ผู้ประกอบการไทยต้องให้ความสำคัญกับการเลือกใช้แพลตฟอร์มการชำระเงินที่มีความปลอดภัยสูง เพื่อปกป้องลูกค้าและเสริมสร้างความมั่นใจในธุรกรรมผู้ประกอบการไทยควรที่จะศึกษาความต้องการของตลาดมาเลเซีย รวมทั้งพิจารณาความเป็นไปได้ในการร่วมมือกับพันธมิตรท้องถิ่น เพื่อเพิ่มโอกาสความสำเร็จในการเข้าสู่ตลาด นอกจากนี้ควรติดตามพัฒนาการของโครงการและนโยบายที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง เพื่อปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับโอกาสและความท้าทายที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต เพื่อที่สามารถใช้จุดนี้ในการสร้างความร่วมมือกันเพื่อไปถึงจุดหมายที่ได้ตั้งไว้
Außenhandelsförderungsbüro in Kuala Lumpur