กระทรวงสาธารณสุขเวียดนาม (MOH) รายงานว่า ตลาดอุปกรณ์ทางการแพทย์เวียดนามเติบโตร้อยละ 18-20 ในช่วงปี 2559-2563 โดยมากกว่าร้อยละ 90 เป็นสินค้านำเข้าจากต่างประเทศ เช่น ญี่ปุ่น เยอรมนี สหรัฐอเมริกา จีน และสิงคโปร์ ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 55 ของมูลค่าการนำเข้าทั้งหมด
ในเดือนสิงหาคม 2567 สำนักงานคณะกรรมการยาแห่งเวียดนาม (DAV) รายงานว่าตลาดอุปกรณ์ทางการแพทย์เติบโตอย่างรวดเร็ว โดยมีมูลค่า 1,700 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่งผลให้เวียดนามเป็นตลาดใหญ่อันดับ 8 ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
จากข้อมูลของ Statista คาดว่าในปี 2568 ตลาดอุปกรณ์ทางการแพทย์ของเวียดนามจะเติบโตอย่างมาก มีมูลค่า 1,770 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยอุปกรณ์การแพทย์ที่เกี่ยวกับหัวใจคาดว่าจะมีส่วนแบ่งตลาดมากที่สุด คิดเป็นมูลค่า 292.99 ล้านเหรียญสหรัฐ
นักวิเคราะห์คาดว่าตลาดอุปกรณ์ทางการแพทย์ในเวียดนามจะเติบโตที่อัตราการเติบโตต่อปี
แบบทบต้น (CAGR) ร้อยละ 8.62 ในช่วงปี 2568-2572 ส่งผลให้มูลค่าตลาดเพิ่มขึ้นเป็น 2,470 ล้านเหรียญสหรัฐภายในสิ้นปี 2572 การเติบโตนี้ได้รับแรงหนุนจากค่าใช้จ่ายด้านการดูแลสุขภาพที่เพิ่มขึ้น และความพยายามพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านสาธารณสุข จึงเป็นโอกาสในการขยายตัวและลงทุนในภาคอุปกรณ์ทางการแพทย์
มีหลายปัจจัยที่ทำให้ภาคอุปกรณ์ทางการแพทย์ในเวียดนามดึงดูดนักลงทุนมากขึ้น ได้แก่ (1) โครงสร้างพื้นฐานด้านสุขภาพและสังคมผู้สูงอายุ เวียดนามมีโรงพยาบาลและสถานพยาบาลกว่า 1,300 แห่งให้บริการประชากรกว่า 100 ล้านคน ขณะเดียวกัน สัดส่วนผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 12 ในปี 2562 เป็นร้อยละ 14 ในปี 2566 สอดคล้องกับแนวโน้มโรคเรื้อรังที่เพิ่มขึ้น โดยประชากรใช้เวลาประมาณ 10 ปีในการจัดการกับภาวะป่วยเรื้อรัง ส่งผลให้ความต้องการบริการดูแลสุขภาพเพิ่มขึ้น (2) การปรับปรุงมาตรฐานการครองชีพในเวียดนามดีขึ้น ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับสุขภาพและยอมลงทุนในอุปกรณ์การแพทย์มากขึ้น แม้ว่าค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อหัวโดยรวมลดลงร้อยละ 3.3 ระหว่างปี 2563-2565 แต่ค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพเพิ่มขึ้นเกือบร้อยละ 25 จาก 153 เหรียญสหรัฐเป็น 189 เหรียญสหรัฐ (3) การตระหนักรู้ด้านสุขภาพที่เพิ่มขึ้น การศึกษาและการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตที่ดีขึ้นช่วยให้ประชาชนตระหนักถึงสุขภาพมากขึ้น มีแนวโน้มการดูแลเชิงป้องกันและการวินิจฉัยโรคตั้งแต่ระยะแรกเพิ่มขึ้น ความต้องการอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ช่วยติดตามสุขภาพและป้องกันโรคเรื้อรังจึงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
เวียดนามได้ดำเนินแผนกลยุทธ์เพื่อดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศและส่งเสริมการถ่ายทอดเทคโนโลยีในภาคอุปกรณ์ทางการแพทย์ ได้แก่ (1) กลยุทธ์พัฒนาอุตสาหกรรมยาแห่งชาติ ซึ่งอนุมัติในเดือนตุลาคม 2566 มีเป้าหมายให้การผลิตยาในประเทศรองรับความต้องการร้อยละ 80 และคิดเป็นร้อยละ 70 ของมูลค่าตลาดภายในปี 2573 (2) แผนพัฒนาเครือข่ายการดูแลสุขภาพฐานราก ที่มุ่งเน้นการลงทุนภาครัฐเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านสุขภาพในพื้นที่ชนบทห่างไกล
(แหล่งที่มา https://www.vietnam-briefing.com/ ฉบับวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2568)
วิเคราะห์ผลกระทบ
ตลาดอุปกรณ์การแพทย์ ยา และการดูแลสุขภาพกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ตามรายงานของบริษัท IQVIA เวียดนามเป็นหนึ่งในประเทศที่อุตสาหกรรมยาเติบโตเร็วที่สุดในโลก โดยคาดว่าอัตรา CAGRจะอยู่ที่ร้อยละ 6-8 ในช่วงปี 2566-2571 ปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนตลาดอุปกรณ์การแพทย์ในเวียดนามได้แก่ การเพิ่มขึ้นของประชากรสูงอายุ การขาดแคลนอุปกรณ์การแพทย์ และการสนับสนุนจากรัฐบาล เช่น การลดภาษีเงินได้นิติบุคคลร้อยละ 10 ให้กับนักลงทุนต่างชาติ ยกเว้นภาษีเป็นเวลา 4 ปี และลดค่าเช่าที่ดินอย่างน้อย 7 ปี นอกจากนี้ รายได้ที่เพิ่มขึ้นและการขยายตัวของเมืองอย่างรวดเร็ว ได้ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตอย่างมีนัยสำคัญ ส่งผลให้ความต้องการบริการดูแลสุขภาพและอุปกรณ์ทางการแพทย์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม เวียดนามพึ่งพาการนำเข้าอุปกรณ์ทางการแพทย์จากต่างประเทศถึงร้อยละ 90 ซึ่งการพึ่งพานี้ทำให้มีต้นทุนที่สูงขึ้น และส่งผลต่อเสถียรภาพของอุตสาหกรรมหากเกิดปัญหาในห่วงโซ่อุปทานระหว่างประเทศ ความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงอุปกรณ์ทางการแพทย์ระหว่างประชากรในเมืองและชนบทยังคงเป็นประเด็นสำคัญ แม้รัฐบาลจะมีแผนพัฒนาเครือข่ายการดูแลสุขภาพฐานราก แต่การกระจายทรัพยากรทางการแพทย์ยังคงเป็นความท้าทาย โดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกลและชายแดนที่อาจขาดแคลนบุคลากรทางการแพทย์และเทคโนโลยีขั้นสูง
นำเสนอโอกาส/แนวทาง
การเติบโตของตลาดธุรกิจผลิตภัณฑ์และบริการทางการแพทย์และเภสัชภัณฑ์ในเวียดนามเกิดจากแนวโน้มของประชากรสูงอายุที่เพิ่มขึ้นในอนาคต มาตรฐานการครองชีพของประชาชนที่ดีขึ้น และไม่เพียงแต่เกิดขึ้นในเขตเมืองเท่านั้นแต่ยังเกิดขึ้นในเขตชนบทด้วย ซึ่งผู้บริโภคในเวียดนามยินดีลงทุนเงินเป็นจำนวนมากซื้อผลิตภัณฑ์และอุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อป้องกันโรคและบำรุงรักษาสุขภาพของตนเอง ขณะเดียวกันเวียดนามมีนโยบายเปิดกว้างในการดึงดูดนักลงทุนต่างชาติและสนับสนุนการถ่ายทอดเทคโนโลยีในสาขานี้ จึงนับว่าตลาดเวียดนามเป็นตลาดที่มีมีศักยภาพมาก ผู้ประกอบการผลิตและส่งออกของไทยที่ประสงค์จะแสวงหาหุ้นส่วนและผู้จัดจำหน่ายในตลาดเวียดนาม สามารถพิจารณาการเข้าร่วมงานแสดงสินค้าอุปกรณ์ทางการแพทย์และเภสัชภัณฑ์ที่จัดขึ้นในเวียดนาม อาทิ งาน Vietnam Medi-Pharn Expo และ Pharmedi Vietnam ซึ่งการเข้าร่วมกิจกรรมเหล่านี้จะเป็นสะพานเชื่อมระหว่างผู้นำทางธุรกิจในตลาดเวียดนามและผู้ประกอบการไทย ช่วยสร้างโอกาสการเข้าสู่ตลาดดและส่งเสริมความร่วมมือทางธุรกิจในเวียดนามได้เป็นอย่างดี