ทรัมป์เชิญห้างค้าปลีกรายใหญ่ประชุมหารือถึงผลกระทบสงครามภาษีการค้า

ประธานาธิบดีทรัมป์เชิญผู้บริหารห้างค้าปลีกรายใหญ่ของสหรัฐฯ ประชุมหารือผลกระทบของภาษีการค้าต่อธุรกิจห้างค้าปลีกในสหรัฐฯ  ที่ทำเนียบขาวในบ่ายวันจันทร์ที่ 21 เมษายน 2568

 

โดยการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่แหล่งข่าวที่ขอไม่เปิดเผยชื่อ ได้มีการยืนยันกับสำนักข่าว Bloomberg และ CNBC ซึ่งทั้งสองสื่อได้รายงานว่า ในบ่ายวันจันทร์ที่ 21 เมษายน 2568 ประธานาธิบดีทรัมป์ได้จัดให้มีการประชุมหารือถึงผลกระทบของนโยบายภาษีการค้าต่อธุรกิจร้านค้าปลีกในสหรัฐฯ โดยการประชุมจัดขึ้นที่ทำเนียบขาว โดยได้เชิญ นาย Doug McMillion ซีอีโอของห้าง Walmart ยักษ์ใหญ่แห่งวงการค้าปลีกของสหรัฐฯ รวมทั้งผู้บริหารของห้างค้าปลีกยักษ์ใหญ่อื่นๆ ของสหรัฐฯ ซึ่งประกอบด้วย ห้าง Target ห้าง Home Depot และ ห้าง Lowe’s เข้าร่วมการประชุม โดยเฉพาะห้าง Walmart และห้าง Target มีการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศในปริมาณเป็นเปอร์เซนต์ระดับสูง

 

ทั้งนี้ ทางทำเนียบขาว ไม่ได้มีการลงตารางนัดหมายของการประชุมหารือครั้งนี้ในตารางนัดหมายสาธารณะของประธานาธิบดี  ซึ่งทั้งสำนักข่าว Bloomberg และ CNBC ได้มีการติดต่อไปยังห้าง Walmart และ Home Depot เพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม แต่ได้รับการปฎิเสธในการให้ความเห็นเกี่ยวกับการประชุมหารือกับประธานาธิบดีทรัมป์ในครั้งนี้ อีกทั้งห้าง Target และ Lowe’s ไม่ได้มีการตอบกลับกับผู้สื่อข่าวแต่อย่างไร

 

สำหรับห้างค้าปลีกทั่วไปในสหรัฐฯ สงครามภาษีการค้าถือเป็นภัยคุกคามและความท้าทายต่อภาพรวมของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ภายหลังจากผู้บริโภคชาวอเมริกันต้องเผชิญกับสภาวะเงินเฟ้อในระดับสูงมานานหลายปี และค่าครองชีพที่สูงขึ้น  แต่เมื่ออัตราเงินเฟ้อค่อยๆ ลดระดับลง ทำให้ผู้บริโภคชาวอเมริกันมองหาสินค้าในราคาที่ต่ำลง

 

ล่าสุด ในงานการประชุมนักลงทุนเมื่อต้นเดือนเมษายนซึ่งจัดขึ้นที่เมือง Dallas รัฐ Texas โดยมีนาย John David Rainey ตำแหน่ง Chief Financial Officer ของห้าง Walmart ได้ให้สัมภาษณ์ ว่าห้าง Walmart มีการนำเข้าสินค้าจากทั่วโลกประมาณ 1 ใน 3 ของสินค้าที่จำหน่าย และในบรรดาการนำเข้าสินค้าจากประเทศต่างๆ ทั่วโลก ประเทศจีน และเม็กซิโก เป็นสองประเทศที่เป็นซัพพลายเออร์รายสำคัญที่สุดของห้างฯ  ทั้งนี้ ห้าง Walmart ดูจะได้เปรียบกว่าห้างอื่นๆ  โดยสินค้าที่วางจำหน่ายในห้างฯ ประมาณ 2 ใน 3 เป็นสินค้าในกลุ่ม Grocery ที่มีการผลิตในสหรัฐฯ หรือสินค้าที่มีการประกอบในสหรัฐฯ ในขณะที่ตรงกันข้ามกับห้าง Target ซึ่งอยู่ในสถานะที่ยากลำบากกว่า ด้วยสินค้าที่ห้าง Target จำหน่ายเป็นสินค้าที่ผลิตในต่างประเทศ ห้างฯ มีสำนักงานใหญ่ที่เมือง Minneapolis รัฐ Minnesota และเป็นห้างค้าปลีกที่เป็นที่รู้จักกันดีว่า จำหน่ายสินค้าที่หาซื้อได้ในราคาไม่แพง อาทิ เสื้อผ้า และข้าวของเครื่องใช้ที่มีรูปแบบที่ทันสมัย เก๋ไก๋ และเป็นสินค้าที่ผลิตในต่างประเทศ

 

ในช่วงตลอดระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมา ห้าง Target มีรายได้ประจำปีที่คงที่  และเมื่อเร็วๆ นี้ ห้างฯ ได้คาดการณ์ยอดขายสำหรับปีงบประมาณล่าสุด มีอัตราเติบโตร้อยละ 1

 

ทั้งนี้ สหพันธ์ค้าปลีกของสหรัฐฯ (National Retail Federation) ได้ออกมาเตือนถึงภัยคุกคามของภาษีตอบโต้ที่จะส่งผลต่อรายจ่ายครัวเรือนเพิ่มสูงขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการซื้อสินค้าที่แพงขึ้น ตั้งแต่ รองเท้าผ้าใบ เครื่องปิ้งขนมปัง และฝูกเตียงนอน เป็นต้น

 

ที่มา:  Trump tariffs: Walmart, Home Depot, Target CEOs at White House

 

สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ที่ยังคงเข้มข้นในขณะนี้  ได้ส่งแรงสั่นสะเทือนต่อทุกธุรกิจทุกภาคส่วนทั้งภายในประเทศและประเทศที่เป็นคู่ค้ากับสหรัฐฯ เพื่อการเตรียมการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นได้ทุกขณะ

 

จากการประกาศการเก็บภาษีตอบโต้ของสหรัฐฯ กับจีนในอัตราร้อยละ 145 ย่อมส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการนำเข้า ผู้จัดจำหน่าย และผู้ค้าปลีก รวมทั้ง ผู้บริโภคชาวอเมริกันที่ต้องแบกภาระต้นทุนสินค้าในราคาที่แพงขึ้น แม้ว่าในขณะนี้มีการผ่อนผันการเก็บภาษีตอบโต้ออกไป 90 วัน แต่ในรายงานล่าสุดของบริษัท Zilliant บริษัทผู้นำด้านการบริหารและวางแผนด้านวงจรราคาสินค้าและบริการ ได้เปิดเผยผลการสำรวจล่าสุดว่า ธุรกิจในสหรัฐฯ ร้อยละ 44 มีแผนผลักภาระต้นทุนด้านภาษีสินค้านำเข้าไปให้กับผู้บริโภค

 

ด้วยเสียงสะท้อนและการส่งสัญญาณจากหลายๆ ฝ่าย รวมทั้งผู้ประกอบการค้าปลีกรายใหญ่ในสหรัฐฯ ถึงผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ อาจจะเป็นความเคลื่อนไหวของประธานาธิบดีทรัมป์ในการเชิญประชุมหารือกับห้างค้าปลีกรายสำคัญๆ ข้างต้น ซึ่งผลการประชุมจะเป็นเช่นไร อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงไปในทางผ่อนคลายความตึงเครียดหรือไม่  หรืออาจจะยืดระยะเวลาการตอบโต้กับประเทศคู่ค้าออกไป หรือ มีการนัดหมายต่อรองเจรจากับจีน หรือไม่อย่างไร ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องเฝ้าจับตามองสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

 

หมายเหตุ: รายละเอียดที่ปรากฎในบทความ ข่าวดังกล่าวมากจากหลายแหล่งข้อมูลที่จัดทำและเปิดเผยต่อสาธารณชนทั่วไปซึ่งบางส่วนเป็นเพียงความคิดเห็นส่วนบุคคลเท่านั้น สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครชิคาโก มีวัตถุประสงค์รวบรวมเพื่อเผยแพร่แก่ผู้ที่สนใจเท่านั้น อย่างไรก็ตาม การรับข้อมูลหรือนำข้อมูลดังกล่าวไปใช้ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณเฉพาะบุคคล โดยโดยสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ นครชิคาโกจะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากการนำข้อมูลนี้ไปใช้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม

 

 

 

zh_CNChinese