
เมื่อเดือนกันยายน 2568 ที่ผ่านมา ผลิตภัณฑ์เกี๊ยวสดใหม่เนื้อหมูและผักป่านหลานเกิน (เกี๊ยวผักปั่นหลานเกิน: ปั่นหลานเกิน หรือ Radix Isatidis ซึ่งเป็นยาสมุนไพรของจีน มีผลประโยชน์ในการแก้ไขร้อนใน และเจ็บคอ) ได้รับการเปิดตัวในตลาดจีน เป็นเกี๊ยวแช่แข็งที่ผสมผสานแนวคิดการบำรุงสุขภาพแบบดั้งเดิมเข้ากับเทคโนโลยีอาหารสมัยใหม่ที่ผลิตจากบริษัท Yangxiang Foods ของจีน โดยการนำกลยุทธ์ "การบำรุงสุขภาพผ่านอาหารการกินรวมกับเทคโนโลยีสมัยใหม่" มาปรับใช้เพื่อสร้างนวัตกรรมให้กับหมวดหมู่ผลิตภัณฑ์ เพื่อตอบสนองความต้องการการบำรุงสุขภาพผ่านอาหารการกินที่เป็นกระแสนิยมจากผู้บริโภคจีน

เกี๊ยวผักปั่นหลานเกินไม่เพียงแต่เป็นการคิดค้นรสชาติใหม่ทั่วไป แต่เป็นการปฏิวัติเทคโนโลยีบนโต๊ะอาหาร เนื่องจากใช้ผักซึ่งเป็นวัตถุดิบสิทธิบัตรที่มีชื่อว่า "Song You Yi Hao" ที่ผ่านการเวลาวิจัยมากว่า 10 ปี โดยทีมนักวิชาการจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์หัวจูงประเทศจีน ผักพิเศษชนิดนี้ได้จากการผสมข้ามพันธุ์ทางวิทยาศาสตร์ระหว่างต้นผักปั่นหลานเกิน (Ban Lan Gen) และกวางตุ้งดอก (Pak Gal Na) ซึ่งไม่เพียงแต่ทำลายความเชื่อเดิมของจีนที่ว่า "ยาดีย่อมขม" เท่านั้น แต่ยังสร้างความก้าวหน้าทั้งด้านโภชนาการและสรรพคุณ ได้แก่ มีวิตามินซี 98.4 มก. และ เส้นใยอาหาร 3.5 กรัมต่อ 100 กรัม คิดเป็นร้อยละ 14 ของปริมาณที่แนะนำต่อวันสำหรับผู้ใหญ่

จากการทดลองจำหน่ายในวงผู้บริโภคที่จำกัดเมื่อก่อนหน้านี้ เกี๊ยวผักปั่นหลานเกินได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคจำนวนมาก ความคิดเห็นจากคุณแม่ท่านหนึ่งที่สะท้อนถึงคุณค่าหลักของผลิตภัณฑ์นี้คือ "แต่ก่อนลูกไม่ยอมกินผัก แต่ตอนนี้ขอกินเกี๊ยวชนิดนี้เอง แถมยังได้วิตามินเสริม นี่คือเหตุผลสำคัญที่ฉันยินดีซื้อซ้ำ" ซึ่งแสดงให้เห็นถึงคุณค่าหลักของผลิตภัณฑ์ นั่นคือ การผสมผสานการบำรุงสุขภาพเข้าไปในอาหารประจำวัน โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเวลาเพิ่มเติม ทำให้ได้รับสุขภาพที่ดีอย่างเป็นธรรมชาติ
ในแง่ของตลาด การเปิดตัวเกี๊ยวชนิดนี้ไม่เพียงแต่สร้างช่องทางใหม่ในตลาดอาหารสุขภาพให้แก่ บริษัท Yangxiang Foods เท่านั้น แต่ยังเป็นโมเดลนวัตกรรมที่อุตสาหกรรมอาหารแช่แข็งโดยรวมสามารถเรียนรู้ได้ ก็คือ มุ่งเน้นความต้องการที่แท้จริงของผู้บริโภค ใช้เทคโนโลยีในการปลดล็อคคุณค่าของวัตถุดิบดั้งเดิม ทำให้เห็นและจับต้องประโยชน์ต่อสุขภาพได้จริง ไม่ใช่ผ่านแค่คำโฆษณาบนบรรจุภัณฑ์ แต่โดยอาศัยข้อได้เปรียบจากห่วงโซ่อุตสาหกรรมที่ครบวงจรเพื่อสร้างรากฐานการควบคุมคุณภาพ และร่วมมือกับหน่วยงานวิจัยชั้นนำเพื่อพ้นอุปสรรคทางเทคโนโลยี จะทำให้ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพสามารถก้าวเข้าสู่ชีวิตประจำวันของผู้บริโภคได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
จากการใช้ผักเบี้ยใหญ่และ Taraxaci Herba เป็นไส้เกี๊ยวน้ำ ผักคะน้า (Brassica oleracea var. acephala DC.) ไปใส่ในสูตรชานม ไปจนถึงการใช้วัตถุดิบจากสมุนไพรในบัวลอย การนำวัตถุดิบดั้งเดิมมาใช้อย่างสร้างสรรค์ได้ทำให้วัตถุดิบเหล่านี้มีชีวิตชีวาอีกครั้ง แก่นแท้ของการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้คือ ความต้องการของผู้บริโภคที่คุณค่าทางโภชนาการจากตัววัตถุดิบเอง และต้องการความสะดวกสบายที่สอดคล้องกับวิถีชีวิตสมัยใหม่
ความต้องการบำรุงสุขภาพผ่านอาหารของผู้บริโภคจีน กำลังทำให้เกิดตลาดธุรกิจขนาดใหญ่ขึ้น ตามข้อมูลล่าสุด มูลค่าตลาดการบำรุงสุขภาพผ่านอาหารของจีนในปี 2567 ได้ทะลุกว่า 6 แสนล้านหยวน และภายใต้การขับเคลื่อนทั้งจากนโยบายสนับสนุนและการยกระดับการบริโภค คาดว่าในปี 2568 มูลค่าตลาดนี้จะสูงถึง 7.5 แสนล้านหยวน ตัวเลขเหล่านี้ไม่เพียงแต่แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของวัฒนธรรมการบำรุงสุขภาพแบบดั้งเดิม แต่ยังสะท้อนถึงความต้องการรอบด้านของผู้บริโภคที่ต้องการ "การบำรุงสุขภาพผ่านอาหาร"
ปัจจุบัน การเปลี่ยนผ่านของรุ่นผู้บริโภคกำลังยกระดับโครงสร้างตลาด ข้อมูลจาก iiMedia Research (แพลตฟอร์มวิเคราะห์ชี้ให้เห็นว่า ผู้บริโภคอายุต่ำกว่า 35 ปี มีส่วนสร้างปริมาณเสียงในโซเชียลมีเดียเกี่ยวกับขนมเพื่อสุขภาพถึงร้อยละ 65 และในด้านผลิตภัณฑ์บำรุงสุขภาพผ่านอาหาร ก็มีส่วนสร้างการเติบโตของตลาดถึงร้อยละ 35.9 ข้อได้เปรียบด้านปริมาณเสียงนี้กำลังถูกแปลงเป็นกำลังซื้ออย่างรวดเร็ว
ขณะที่ความต้องการบริโภคเพื่อสุขภาพยกระดับขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตลาดอาหารสุขภาพกำลังเข้าสู่ช่วงขยายตัวอย่างก้าวกระโดด การขยายตัวของตลาดอาหารสุขภาพไม่เพียงแต่เพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ แต่ยังกระตุ้นให้บริษัทอาหารต้องปรับตัวจากการตอบสนองรสชาติสู่ โภชนาการและคุณประโยชน์เชิงร่างกาย ตังนั้น บริษัทแห่งใดที่สามารถพัฒนาทางเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง ควบคุมคุณภาพผลิตภัณฑ์ได้อย่างเข้มงวด และสร้างช่องทางกระจายสินค้าได้สำเร็จ บริษัทนั้นก็สามารถได้เปรียบในโอกาสของการปฏิวัติสินค้าอาหารเพื่อสุขภาพ
ความเห็นของ สคต. ณ เมืองหนานหนิง
ด้วยประชาชนจีนได้ให้ความสำคัญกับการดูแลและบำรุงสุขภาพมากขึ้น จากเดิมแนวคิดการบำรุงสุขภาพที่นิยมในกลุ่มผู้สูงอายุได้ไปสู่ผู้บริโภคทุกวัยทั้งสังคมในปัจจุบัน โดยเฉพาะในกลุ่มผู้บริโภควันรุ่น ผู้บริโภคกลุ่มนี้นิยมบำรุงสุขภาพผ่านวิธีการบริโภคที่สะดวกและยั่งยืน ดังนั้น สินค้าอาหารจากธรรมชาติได้กลายเป็นเทรนด์ใหม่ยอดนิยมในตลาด อาทิ แนวคิด "การบำรุงสุขภาพแบบไม่ยุ่งยาก" และ "การบำรุงร่างกายด้วยอาหารด้วยวิทยาศาสตร์" กำลังผลักดันให้ตลาดสินค้าอุปโภคบริโภคยกระดับขึ้น ในบริบทนี้ เกี๊ยวผักปั่นหลานเกินซึ่งผสมผสานวัตถุดิบนวัตกรรมและอาหารดั้งเดิม ที่ไม่เพียงแต่สะท้อนความต้องการใหม่ของผู้บริโภคต่ออาหารเพื่อสุขภาพ แต่ยังแสดงถึงพลังนวัตกรรมด้านอาหารที่เกิดจากเทคโนโลยีและความร่วมมือในอุตสาหกรรม ในโอกาสนี้ด้วยประเทศไทยเป็นประเทศที่มีชื่อเสียงด้านสมุนไพร ซึ่งก็เป็นที่ชื่นชอบของผู้บริโภคจีน ดังนั้น ผู้ประกอบการไทยสามารถประยุกต์นำนวัตกรรมมาพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารร่วมกับสมุนไพรไทยเพื่อสุขภาพ ตลอดจนศึกษาข้อมูลที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนความต้องการสินค้าเพื่อสุขภาพในตลาดจีน เพื่อการพัฒนาผลิตภัณฑ์บำรุงสุขภาพที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวแบบไทย เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันสำหรับการส่งออกผลิตภัณฑ์ไทยอย่างยั่งยืน
-----------------------------------------------------
แหล่งที่มา
http://www.gx.chinanews.com.cn/xfwq/xfxzz/2025-09-19/detail-ihevfuss7660209.shtml
http://www.gx.chinanews.com.cn/xfwq/xfxzz/2025-08-05/detail-ihetykaf8557692.shtml
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองหนานหนิง
วันที่ 29 ตุลาคม 2568