บริษัท Biontech ผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตเวชภัณฑ์ยากำลังเข้าซื้อกิจการของบริษัท Biotheus ที่เป็นสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีชีวภาพในประเทศจีน ตามที่ทั้งสองบริษัทได้ประกาศเรื่องนี้เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ว่า Biontech กำลังวางแผนการชำระเงินล่วงหน้าจำนวน 800 ล้านเหรียญสหรัฐฯ บวกกับการชำระเงินตามเป้าหมายของงาน (Milestone Payments) ที่เป็นไปได้สูงสุดถึง 150 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ถือว่าเป็นข้อตกลงที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของบริษัท Biontech เลยทีเดียว คาดว่า ข้อตกลงดังกล่าวจะแล้วเสร็จในไตรมาสแรกของปี 2025 และข้อตกลงฉบับนี้จะทำให้บริษัท Biontech ที่ตั้งอยู่ในเมือง Mainz เป็นบริษัทที่มีสิทธิบัตรระดับโลกแบบเต็มรูปแบบ ในการใช้แอนติบอดีเพื่อการรักษาชนิด Bispecific Monoclonal (BsMAb – Bispecific Monoclonal Antibody) ซึ่งเป็นการใช้แอนติบอดีเพื่อการบำบัดโรคมะเร็งประเภทหนึ่ง โดยทั้งสองบริษัทก็ได้เข้าร่วมเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ตั้งแต่ปีที่ผ่านมาเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ Biontech จะเป็นผู้ได้รับสิทธิส่วนใหญ่ในผลิตภัณฑ์ที่จะใช้ชื่อว่า BNT327 ยกเว้นในประเทศจีน ซึ่งไม่มีใครรู้ว่า ในปีที่ผ่านมาบริษัท Biontech ใช้เงินไปกับข้อตกลงเชิงกลยุทธ์นี้เท่าใด และมีข้อมูลเฉพาะที่ว่า ในตอนนี้บริษัท Biontech จ่ายเงินรวมเกือบพันล้านเหรียญสหรัฐฯ สำหรับการขยายสัญญาเพื่อให้บริษัทสามารถดูแลธุรกิจในภูมิภาคจีนได้ และการเทคโอเวอร์บริษัท Biotheus แสดงให้เห็นว่า นาย Ugur Sahin ผู้บริหารบริษัท Biontech ตั้งความหวังสำหรับผลิตภัณฑ์นี้ไว้มาก นาย Sahin กล่าวเมื่อวันพุธที่ผ่านมาว่า มีโอกาสที่จะ “สร้างมาตรฐานใหม่ในด้านการรักษาโรคมะเร็งด้วยเวชภัณฑ์ยา” ในตลาดหลักทรัพย์ Nasdaq ซึ่งเป็นตลาดที่เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีของประเทศสหรัฐอเมริกา หุ้นของบริษัท Biontech เพิ่มขึ้นถึง 5% ในการซื้อขายช่วงแรกหลังจากที่ทราบข่าวดังกล่าว
ตามที่ผู้เชี่ยวชาญระบุ ยาดังกล่าวของ Biontech มีศักยภาพที่จะแข่งขันกับยา Keytruda ของบริษัทยา Merck จากประเทศสหรัฐอเมริกา ปัจจุบันการรักษาโรคมะเร็งด้วยยาต้องเป็นไปตามใบสั่งของแพทย์และเป็นยาที่ขายดีที่สุดในโลก และสร้างรายได้ให้กับ Merck ได้ถึง 25 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปีที่ผ่านมา นาย Markus Manns ผู้จัดการกองทุนของบริษัท Union Investment กล่าวว่า “หาก BNT237 ใช้งานได้จริงก็เรียกได้ว่าราคาที่ Biontech เทคโอเวอร์บริษัทนั้นไปก็คุ้มสุด ๆ” บริษัทที่เทียบเคียงได้ในปัจจุบันก็ คือ บริษัท Summit Therapeutics ซึ่งมีแอนติบอดีที่คล้ายกัน แต่ยังอยู่ในระหว่างการพัฒนาอีกเล็กน้อย และมีมูลค่า 15 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยนาย Manns กล่าวว่า นอกจากการเทคโอเวอร์ครั้งนี้จะมึประโยชน์จากปัญหาการถือครองเงินสดของ Biontech ที่สูงอีกด้วย ล่าสุดบริษัท Biontech มีเงินกองทุนสูงถึง 17.8 พันล้านยูโร การเข้าซื้อกิจการบริษัท Biotheus ยังทำให้บริษัท Biontech สามารถขยายการดำเนินธุรกิจในประเทศจีนออกไป นอกจากนี้ บริษัทยังสามารถพัฒนาศูนย์วิจัยและพัฒนาในท้องถิ่นสำหรับดำเนินการด้านการวิจัยเชิงทดลองทางคลินิก (Clinical Trials) และโรงงานผลิตเวชภัณฑ์ยาแบบชีวภาพออกไปอีกด้วย นอกจากนี้พนักงานมากกว่า 300 ชีวิตจะถูกถ่ายโอนไปยังบริษัท Biontech ต่อไป
ปัจจุบัน Biontech กำลังทดสอบยาเพื่อใช้รักษามะเร็งเต้านม และมะเร็งปอดชนิดเซลล์เล็ก (Small Cell Lung Cancer, SCLC) เมื่อมีการกระจายตัวขั้นสูง ในระดับการวิจัยเชิงทดลองทางคลินิก (clinical trials) ระยะที่ 2 นอกจากนี้ Biontech ยังมีการวิจัยเชิงทดลองทางคลินิก ระยะที่ 1 ร่วมกับสารอื่นเพื่อต่อต้านเนื้องอกชนิดแข็ง (Multiple Solid Tumor) หลายชนิดอีกด้วย โดยปกติแล้วแล้ว ยาต่าง ๆ จะต้องผ่านขั้นตอนการวิจัยเชิงทดลองทางคลินิกสามขั้นตอนก่อนที่บริษัทจะสามารถยื่นขออนุมัติได้ ในช่วงปลายปีนี้ และปี 2025 มีกำหนดจะเริ่มงานวิจัยสำคัญหลายฉบับเพื่อนำมาประเมินยาต่าง ๆ นอกจากนี้ Biontech ยังต้องการศึกษาแบบผสมผสานหลายรายการอีกด้วย ซึ่งบริษัท Biontech กำลังพัฒนายาต้านมะเร็งหลายชนิดซึ่งมีการออกฤทธิ์ต่างกัน วัคซีนที่เป็นที่รู้จักมากที่สุด คือ วัคซีนป้องกันมะเร็งที่ใช้เทคโนโลยีเอ็มอาร์เอ็นเอ (Messenger Ribonucleic Acid ; mRNA) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเดียวกันกับที่บริษัท Biontech ใช้ในการพัฒนาวัคซีนป้องกันโคโรนาด้วย ในเวลานี้บริษัทกำลังทดสอบยาต้านมะเร็งประเภทต่าง ๆ ที่เป็นการทดลองทางคลีนิก ระยะที่ 2 หลายชนิด นอกจากนี้บริษัท Biontech กำลังทำงานเกี่ยวกับการพัฒนาเซลล์บำบัดมะเร็งอีกด้วย และยังรวมถึงยากลุ่มใหม่แบบ Antibody-Drug Conjugate (ADC) ซึ่งเป็นยากลุ่มยาแอนติบอดีที่มีการทำงานเหมือนกับเคมีบำบัดโดยทำงานโดยตรงในเซลล์มะเร็ง ซึ่งบริษัทอาศัยผลดีที่อาจเกิดขึ้นจากการรักษาแบบผสมผสาน โดยบริษัทหวังว่า หากสารหลายชนิดที่พัฒนาขึ้นมาใช้งานร่วมกันก็จะสามารถต่อสู้กับมะเร็งได้ดียิ่งขึ้น บริษัท Biontech ต้องการส่งยาต้านมะเร็งตัวแรกออกสู่ตลาดภายในปี 2026 และภายในปี 2030 บริษัทต้องการขออนุมัติยารักษามะเร็งที่มีส่วนผสมออกฤทธิ์ประเภทต่าง ๆ 10 รายการ จนถึงตอนนี้บริษัท Biontech มียาเพียงตัวเดียวในตลาดนั่นคือ วัคซีนโคโรนา Comirnaty ที่พัฒนาร่วมกับบริษัท Pfizer พันธมิตรจากสหรัฐฯ ในปี 2021 บริษัท Biontech สามารถสร้างยอดจำหน่ายได้เกือบ 19 พันล้านยูโร แต่ในปี 2023 ยอดจำหน่ายลดลงเหลือ 3.8 พันล้านยูโรเท่านั้น ในปีนี้บริษัทคาดว่า รายรับจะอยู่ระหว่าง 2.5 ถึง 3.1 พันล้านยูโร แต่เมื่อเร็ว ๆ นี้ระบุเพียงว่า น่าจะบรรลุผลสำเร็จตามที่ตั้งใจไว้ไม่เกิน 2.5 พันล้านยูโรเท่านั้น
จาก Handelsblatt 2 ธันวาคม 2567