โอมานเตรียมสร้างเมืองเกษตรกรรมเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงทางอาหาร

รัฐสุลตานโอมานรวมถึงหลายประเทศในตะวันออกกลางตระหนักถึงความเสี่ยงจากการที่ประเทศต้องพึ่งพิงรายได้จากน้ำมันเพียงอย่างเดียว รัฐบาลจึงมีนโยบายในการส่งเสริมการลงทุนในสาขาอื่นๆ มากขึ้น โดยเฉพาะด้านอาหาร โดยเตรียมการลงทุนผลิตอาหารในประเทศ เป็นพันธมิตรกับต่างประเทศที่มีความเชี่ยวชาญด้านธุรกิจ มีจุดแข็งด้านเทคโนโลยี รวมถึง ภาพลักษณ์ที่ดีในการผลิตอาหารปลอดภัย   ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการวางรากฐานทางธุรกิจและสร้างความเข้มแข็ง ให้กับประเทศโอมานได้ในอนาคต

จากรายงานของหนังสือพิมพ์ Oman Daily Observer รัฐบาลโอมานเตรียมสร้างเมืองเกษตรกรรม Saham ครอบคลุม พื้นที่ 65 ตารางกิโลเมตร สัดส่วนร้อยละ 70  ใช้ในการเกษตร และร้อยละ 30  เพื่อการพัฒนาเมือง (urban development) ที่เป็นส่วนช่วยขับเคลื่อนการขยายตัวทางเศรษฐกิจ เพิ่มผลิตภาพและเร่งการสร้างนวัตกรรม ขจัดความยากจน สนับสนุนการบริโภคและการพัฒนาคุณภาพชีวิต รวมถึงดึงดูดการลงทุนในอนาคต  ซึ่งเมืองนี้จะใช้เทคโนโลยีขั้นสูง เช่น การปลูกพืชไร้ดิน (hydroponics)  การปลูกพืชระบบรากแขวนให้รากสัมผัสกับอากาศโดยตรง (Aeroponics) และฟาร์มเลี้ยงปลา คาดว่าผลผลิตสามารถใช้เลี้ยงประชากร 25,000 คนต่อปี

รายงานข่าวระบุว่าแผนแม่บทดังกล่าวได้รับการนำเสนอจากกลุ่มบริษัท Surbana Jurong Group ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาของรัฐบาลสิงคโปร์ด้านการพัฒนาชุมชนเมือง การพัฒนาอุตสาหกรรม และโครงสร้างพื้นฐานตลอดห่วงโซ่คุณค่า ทั้งนี้ยังไม่มีการเปิดเผยค่าใช้จ่ายและวันที่จะเริ่มก่อสร้างของโครงการ

การปรับโครงสร้างและแปรรูปรัฐวิสาหกิจ

Oman Investment Authority (OIA) ซึ่งเป็นหน่วยงานใหม่ที่จัดตั้งขึ้นเมื่อปี 2563 เพื่อกระชับอํานาจในการบริหารจัดการแหล่งทุนกองทุนของรัฐและรัฐวิสาหกิจของโอมานทั้งหมด  ได้ควบรวมกิจการของหน่วยงานรัฐสองแห่ง ได้แก่ Oman Food Investment Holding Co (Nitaj) และ Fisheries Development Oman เพื่อสนับสนุนความมั่นคงทางอาหาร   ตามนโยบายยุทธศาสตร์ Oman Vision 2040 โดยมั่นใจว่าการควบรวมธุรกิจอาหารจะนำมาซึ่งผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูง คุ้มค่า และการตัดสินใจที่มีประสิทธิภาพ  ทั้งนี้ ขอบเขตอำนาจหน้าที่ของ OIA ในการจัดตั้งเพื่อควบรวม ชำระบัญชี และขายบริษัทต่างๆ ประโยชน์ที่อาจได้รับ ได้แก่ การบูรณาการห่วงโซ่คุณค่าและการรวมการจัดซื้อ สัญญา โลจิสติกส์ และกิจกรรมทางธุรกิจ

ที่ผ่านมาหน่วยงาน  Nitaj ได้จัดตั้งโครงการกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารทั่วประเทศ มากกว่า 10 โครงการ โดยใช้เงินลงทุนมากกว่า 1.2 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ  ส่วน Fisheries Development Oman ที่ได้ก่อตั้งขึ้นเพื่อสำรวจและค้นหาโอกาสการลงทุนในภาคการประมงระดับท้องถิ่นและระดับนานาชาติ

เมื่อเดือนมีนาคม  2567 Dr. Saud bin Hamoud Al Habsi รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร ประมง และทรัพยากรน้ำ แถลงข่าวเกี่ยวกับโอมานว่ากำลังดำเนินโครงการด้านอาหาร 137 โครงการ โดยมีการลงทุนรวม  4.2 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ โครงการริเริ่มต่างๆ ได้แก่ เมืองเกษตรกรรม แผนเกษตรกรรมแบบบูรณาการเพื่อแก้ไขปัญหาที่ดิน โดยปัจจุบันโอมานมีประชากรราว 4.5 ล้านคน   คาดว่าปีนี้โอมานมีมูลค่าจีดีพี  108.9 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงจากมูลค่า 109.1 พันล้านเหรียสหรัฐในปี 2566 เป็นผลให้ GDP ต่อหัวในปี 2567 คาดว่าจะอยู่ที่ 20,913 เหรียญสหรัฐ

ความเห็นของ สคต.ดูไบ

รัฐบาลโอมานพยายามที่จะกระจายการลงทุนในสาขาอื่นมากขึ้น นอกเหนือจากน้ำมัน ด้วยการใช้เงินงบประมาณภาครัฐในการทำกิจการระหว่างประเทศที่ช่วยดึงดูดการลงทุนและเทคโนโลยีเข้ามาสู่ประเทศ อาทิ   ข้อตกลงในการจัดตั้งกองทุนอาหาร (Gulf Japan Food Fund: GJFF) กับธนาคารใหญ่ของญี่ปุ่นด้วยมูลค่าการลงทุน  400 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งทั้งสองประเทศแบ่งการถือหุ้นคนละครึ่ง

ปัจจุบันไทยและโอมานยังมีช่องว่างที่สามารถพัฒนาความร่วมมือในสาขาต่าง ๆ ที่แต่ละฝ่ายมีความเชี่ยวชาญ อาทิ ไทยช่วยสนับสนุนโอมานด้านความมั่นคงทางอาหาร การบริหารจัดการด้านการท่องเที่ยวและสาธารณสุข ในขณะที่โอมานมีความมั่นคงทางพลังงาน ดังนั้นโอมานจึงเป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีความสำคัญ เป็นตลาดที่น่าสนใจของผู้ประกอบการไทยในด้านอุตสาหกรรม การเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำของไทย เรื่องการทำฝนเทียมของไทย ซึ่งเป็นสิ่งที่ไทยมีความเชี่ยวชาญเป็นที่ต้องการของโอมาน

สำหรับภาพรวมการค้าระหว่างไทยกับโอมานปี 2567 (ม.ค.-ก.ค.) รวม 816.74 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (-30.2%) แบ่งเป็นการส่งออก 210.78 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (-13.5%)  และนำเข้า 605.96 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (-34.6%) การส่งออกสินค้ากลุ่มอาหารประมาณ 17.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (+23.3%) ประเภทอาหารที่ส่งออก ได้แก่   ปลากระป๋อง ผลไม้กระป๋อง ผลไม้สด ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ไก่ เครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอส์ ผลิตภัณฑ์ข้าวสาลี ข้าว ผักสด และปลา

——————————————————-

 

ที่มา: Arabian Gulf Business Insight

thThai