การยกเลิกมาตราการนำเข้าและการยืดหยุ่นทางการค้าที่ มาจากรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ของอาร์เจนตินาในช่วง 6 เดือนแรกของการบริหารงานของนาย Javier Milei ประธานาธิบดีอาร์เจนตินา สรุปได้ดังนี้
(1) ใบอนุญาต การนำเข้า : รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ของอาร์เจนตินา ได้มีการยกเลิกระบบนำเข้าและการขอใบอนุญาตใดๆ สำหรับการนำเข้า (จากเดิมคือระบบ SIRA) เปลี่ยนมาใช้ ระบบนำเข้าทางสถิติใหม่ (ระบบการนำเข้า SEDI) ซึ่งหมายความว่าการนำเข้าผลิตภัณฑ์สินค้าของผู้นำเข้า อาร์เจนตินาจะไม่มีการร้องขอใบอนุญาตใดๆ จากรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ในการนำเข้าอีกต่อไป
(2) CEF (Capacidad Económica Financiera – ศักยภาพทางเศรษฐกิจทางการเงิน): เป็นการประเมินสถานะ ทางการเงินของผู้นำเข้าอาร์เจนตินาผ่านสูตรการสร้างมูลค่าที่ผู้นำเข้าอาร์เจนตินาไม่สามารถนำเข้าผลิตภัณฑ์ สินค้าเกินศักยภาพทางการเงินได้ แต่กฎระเบียบดังกล่าวจะไม่เป็นเงื่อนไขและอุปสรรคในการนำเข้าอีกต่อไป เนื่องจากรัฐบาลอาร์เจนตินาได้ยกเลิกการจำกัดจำนวนการนำเข้าผลิตภัณฑ์สินค้าสำหรับผู้นำเข้าอาร์เจนตินา
(3) ขั้นตอนการชำระเงินการนำเข้า: การชำระเงินค่าสินค้านำเข้ารัฐบาลอาร์เจนตินาได้เปลี่ยนกฎการชำระเงิน จากภายใน 180 วันหลังจากสินค้าผ่านพิธีการศุลกากร เป็นการแบ่งชำระค่านำเข้าเป็น 4 งวดภายในระยะเวลา 120 วัน และอนุญาตให้ผู้นำเข้าสามารถโอนจ่ายค่าสินค้าล่วงหน้าได้ที่ร้อยละ 20 ของมูลค่าสินค้าทั้งหมด
(4) ภาษีมูลค่าเพิ่มและภาษีเงินได้จากการนำเข้า: รัฐบาลอาร์เจนตินาได้มีมาตรการยกเว้นภาษีอาหาร ยา ผลิตภัณฑ์อาบน้ำและดูแลผิวกาย และสินค้าอุตสาหกรรมบางชนิด เพื่อปกป้องผู้บริโภคชาวอาร์เจนตินาจาก ราคาผลิตภัณฑ์สินค้าที่สูงขึ้น
(5) มาตรฐานความปลอดภัยทางไฟฟ้า: กระบวนการนำเข้าวัสดุไฟฟ้าสำหรับผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าในภาค อุตสาหกรรมจะมีความสะดวกและมีมาตรฐานด้านความปลอดภัยมากขึ้น
(6) DJCP (Declaración Jurada de Composición de Producto – หนังสือรับรองส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์): หนังสือรับรองส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์เป็นหนึ่งขั้นตอนที่ถูกยกเลิกเพราะเป็นขั้นตอนที่ทำให้การนำเข้า ผลิตภัณฑ์สินค้าจากอุตสาหกรรมสิ่งทอและรองเท้าเกิดความล่าช้า เนื่องจากเป็นขั้นตอนที่ทำให้ผู้นำเข้าต้อง รายงานรายละเอียดของผลิตภัณฑ์สินค้า
(7) ศุลกากรช่องแดง (กฎเกณฑ์): สินค้าที่ได้มาโดยมาตรการตอบโต้การทุ่มตลาดหรือกฎระเบียบทางเทคนิค จะต้องผ่านช่องทางสีแดงตามกฎระเบียบโดยศุลกากร ที่ซึ่งตรวจสอบเอกสารและสินค้าร้อยละ 100 ทุกกรณี แต่มาตรการนี้ได้ถูกยกเลิกไปเนื่องจากเป็นการเพิ่มเวลาการดำเนินงานและทำให้ต้นทุนการนำเข้าที่ผู้นำเข้า อาร์เจนตินาต้องแบกรับสูงขึ้น
(8) ภาษี: มีการลดภาษีนำเข้าสำหรับวัสดุพลาสติก ตู้เย็น เครื่องซักผ้า ยางรถยนต์ และยากำจัดวัชพืช
(9) ข้อบังคับทางเทคนิค: มีการยกเลิกข้อบังคับเกี่ยวกับสินค้าเฉพาะ 7 ประการ เพื่อลดการใช้ดุลพินิจที่เป็น อุปสรรคทางการค้าได้แก่ (1) การติดฉลากบัลลาสต์ (2) เครื่องมือต่างๆ (3) ท่ออลูมิเนียมแบบยืดหยุ่น (4) หมึก แลคเกอร์และน้ำยาเคลือบเงา (5) ผ้าอนามัย (6) กระดาษบรรจุภัณฑ์ และ (7) สารตะกั่วในน้ำหมึก
บทวิเคราะห์ผลกระทบต่อประเทศไทย
อาร์เจนตินานำเข้าสินค้าโดยมีมูลค่ารวมกว่า 22,744 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2567 (มกราคม-พฤษภาคม) ซึ่ง นำเข้าจากประเทศผู้จำหน่ายหลัก 5 รายได้แก่ (1) บราซิล ร้อยละ 22.9 (2) จีน ร้อยละ 17.4 (3) สหรัฐอเมริกา ร้อยละ 10.7 (4) ปารากวัย ร้อยละ 7.0 และ (5) เยอรมนี ร้อยละ 4.6 ประเทศไทยมีความเกี่ยวข้องกับบรรดา ผู้จำหน่ายของอาร์เจนตินา โดยประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 6 ในรายชื่อประเทศ และครองอันดับที่ 2 ในกลุ่ม ประเทศในเอเชียรองจากจีน ประเทศไทยคิดเป็น ร้อยละ 2.9 จากการนำเข้าทั้งหมดของอาร์เจนตินา โดยมี มูลค่ากว่า 654 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2567
สินค้าหลัก 5 รายการที่อาร์เจนตินานำเข้าจากไทยในปี 2567 ได้แก่
(1) ชิ้นส่วนและอุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์ ร้อยละ 33.8
(2) เครื่องยนต์ดีเซลและชิ้นส่วน ร้อยละ 20.3 (3) เครื่องจักรและชิ้นส่วน ร้อยละ 6.6 (4) ยางและผลิตภัณฑ์ต่างๆ ร้อยละ 3.8 และ (5) เหล็กและเหล็กกล้า ร้อยละ 3.0
สินค้าหลัก 5 รายการที่อาร์เจนตินาส่งออกมายังประเทศไทยในปี 2567 มีดังนี้
(1) อาหารทะเลแช่แข็ง ร้อยละ 63.9
(2) เครื่องในวัวและผลิตภัณฑ์จากวัว ร้อยละ 17.8
(3) เครื่องหนัง ร้อยละ 12.4
(4) ฝ้าย ร้อยละ 3.2
(5) ไม้ ร้อยละ 2.2
ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะ
สามารถกล่าวได้ว่ารัฐบาลชุดปัจจุบันภายใต้การบริหารของนาย Javier Milei ประธานาธิบดีอาร์เจนตินา คนปัจจุบันได้ดำเนินการบริหารประเทศอาร์เจนตินาในแนวทางที่ตรงกันข้ามกับการบริหารชุดก่อนของนาย Alberto Fernandez อดีตประธานาธิบดีอาร์เจนตินาโดยสิ้นเชิงเกี่ยวกับกฎระเบียบและอุปสรรคต่อการค้ากับ ต่างประเทศ ในขณะที่รัฐบาลชุดก่อนมีการกำหนดข้อจำกัดและอุปสรรคในการนำเข้าอย่างต่อเนื่อง แต่นาย Javier Milei ประธานาธิบดีอาร์เจนตินา ได้ดำเนินการยกเลิกกฎระเบียบการนำเข้าที่สำคัญในช่วงไตรมาสแรก ของการบริหารของรัฐบาลตน การยกเลิกกฎระเบียบการนำเข้าบางประการมีความสำคัญอย่างมาก เช่น การนำเข้าโดยไม่ต้องขอใบอนุญาตจากรัฐบาล เป็นต้น กฎระเบียบที่สำคัญอีกประการหนึ่งที่ถูกยกเลิกคือ CEF (Capacidad Económica Financiera – ศักยภาพทางเศรษฐกิจทางการเงิน): กฎระเบียบดังกล่าวใช้การพิจารณาจาก ความสามารถทางการเงินที่บริษัทผู้นำเข้าอาร์เจนตินาสามารถชำระค่าสินค้าได้ในอดีต และสถานะทางการเงิน ของบริษัทผู้นำเข้าอาร์เจนตินาในปัจจุบัน บริษัทผู้นำเข้าอาร์เจนตินาจึงจะได้รับอนุญาตให้สามารถนำเข้า ผลิตภัณฑ์สินค้าได้ถึงจำนวนหนึ่งซึ่งโดยทั่วไปแล้วจะได้สิทธิ์ในการนำเข้าต่ำมาก
กฎระเบียบข้อบังคับการนำเข้าอื่นๆ ที่ถูกตัดออกไปช่วยให้กระบวนการนำเข้าทั้งหมดมีความคล่องตัวมากขึ้น และช่วยให้ผู้นำเข้าอาร์เจนตินามีต้นทุนการนำเข้าที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัด เช่น (1) การยกเลิกข้อบังคับทาง เทคนิคสำหรับผลิตภัณฑ์บางประเภท และ (2) การตัด “ช่องทางสีแดง” ของกรมศุลกากร ซึ่งกระบวนการ ดังกล่าวเป็นกระบวนการที่ทำให้มีการตรวจสอบสินค้ามากเกินไปและมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับบริษัทผู้นำเข้าต่างๆ ของอาร์เจนตินา (ประมาณ 1,200 เหรียญสหรัฐฯ ต่อตู้คอนเทนเนอร์) และอื่นๆ
การเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมทางธุรกิจภายในอาร์เจนตินาเป็นสิ่งที่นักธุรกิจไทยควรให้ความสนใจ เนื่องจาก วัตถุประสงค์ของรัฐบาลอาร์เจนตินาคือการลดอุปสรรคทางการค้าซึ่งกำลังดำเนินมาตรการยืดหยุ่นอย่างต่อเนื่อง ตามภาวะเศรษฐกิจที่กำลังทรงตัว และการยืดหยุ่นทางการค้ากับต่างประเทศของอาร์เจนตินาจะเพิ่มมากขึ้นใน อนาคต
ที่มา: https://tradenews.com.ar/15-medidas-en-6-meses-un-resumen-de-los-avances-en-facilitacion-y-desburocratizacion/ – “15 measures in 6 months: a summary of the advances in facilitation and debureaucratization”, by Trade News, July 29th 2024.
————————————————————————————————————————————
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงบัวโนสไอเรส สาธารณรัฐอาร์เจนตินา