สำนักงานสถิติแห่งชาติของเนเธอร์แลนด์ (Central Bureau of Statistic : CBS) รายงานว่า ภาคการค้าปลีกของเนเธอร์แลนด์ในเดือนมกราคมที่ผ่านมามีการเติบโตอยู่ที่ร้อยละ 1.8 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว โดยปริมาณการซื้อขายขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.1 มูลค่าการซื้อขายในภาคการค้าปลีกสินค้าอาหาร (ร้านค้าที่ขายอาหาร เครื่องดื่ม และยาสูบ) ลดลงเล็กน้อยที่ร้อยละ 0.4 ในขณะที่ภาคการค้าปลีกสินค้าที่ไม่ใช่อาหาร (รวมถึงการค้าปลีกที่ไม่ได้อยู่ในร้านค้า) มีการขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.1 และมูลค่าการค้าปลีกออนไลน์ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.7 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า ทั้งนี้ CBS ได้ทำการปรับตัวเลขมูลค่าการค้าปลีกเพื่อให้สะท้อนถึงรูปแบบของวันช้อปปิ้ง (Pattern of shopping days) ในเดือนมกราคมแล้ว ซึ่งหากไม่มีการปรับดังกล่าว มูลค่าการค้าปลีกในเดือนมกราคม 2567 จะขยายตัวเพิ่มขึ้นที่ร้อยละ 2.4 เมื่อเทียบกับเดือนมกราคมปีก่อนหน้า
ภาคการค้าปลีกสินค้าที่ไม่ใช่อาหารที่มีการขยายตัวเพิ่มขึ้นของมูลค่าการค้าที่ร้อยละ 3.1 ปริมาณการขายที่มีการปรับตามการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าก็มีการขยายตัวเพิ่มขึ้นที่ร้อยละ 3.1 เช่นกัน โดยเฉพาะร้านขายยา ร้านขายเสื้อผ้า และร้านขายสินค้าสำหรับกิจกรรมสันทนาการ ในขณะที่ร้านขายรองเท้าและผลิตภัณฑ์เครื่องหนัง ร้านค้าที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์ DIY (รวมถึงห้องครัวและพื้น) ร้านค้าที่จำหน่ายเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้าน ร้านค้าที่จำหน่ายสินค้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภค และร้านค้าที่จำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือนมีมูลค่าการซื้อขายลดลงในเดือนมกราคมที่ผ่านมา
สำหรับภาคการค้าปลีกสินค้าอาหาร มูลค่าการซื้อขายในร้านอาหารลดลงเพียงเล็กน้อย ร้านค้าที่จำหน่ายอาหาร เครื่องดื่ม และยาสูบมีมูลค่าการซื้อขายลดลงร้อยละ 0.4 ในเดือนมกราคมเมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว ปริมาณการขายลดลงร้อยละ 2.5 โดยมูลค่าการซื้อขายสินค้าอาหารในซุปเปอร์มาร์เก็ตลดลงร้อยละ 1.0 ในขณะที่มูลค่าการซื้อขายสินค้าอาหารในร้านค้าที่จำหน่ายสินค้าอาหารเฉพาะหรืออาหารประเภทพิเศษ (Specialty Shops) ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.1
ส่วนมูลค่าการซื้อขายออนไลน์ขยายตัวเพิ่มสูงขึ้นร้อยละ 3.7 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว โดยเฉพาะผู้ค้าปลีกออนไลน์ หรือร้านค้าออนไลน์ที่มีกิจกรรมทางธุรกิจหลักคือการขายสินค้าและบริการผ่านอินเทอร์เน็ต มีมูลค่าการซื้อขายเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.3 ในขณะที่ผู้ค้าปลีกหลายช่องทาง หรือร้านค้าที่จำหน่ายสินค้าและบริการผ่านอินเตอร์เน็ตเป็นกิจกรรมหรือช่องทางรอง มีมูลค่าการซื้อขายจากการขายสินค้าออนไลน์เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.8 โดยสินค้าที่มีมูลค่าการซื้อขายออนไลน์เพิ่มขึ้น ได้แก่ สินค้าอาหาร ผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนบุคคล (Personal Care Products) ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่อาหารอื่นๆ สินค้าเสื้อผ้า และสินค้าแฟชั่น ในขณะที่มูลค่าการซื้อขายสินค้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภคลดลง
บทวิเคราะห์และความเห็น สคต.
แม้ว่าภาพรวมการเติบโตของเศรษฐกิจเนเธอร์แลนด์ทั้งปี 2566 จะขยายตัวได้เพียงแค่ร้อยละ 0.1 ซึ่งถือว่าขยายตัวน้อยมากเมื่อเทียบกับปี 2565 ที่เศรษฐกิจขยายตัวร้อยละ 4.3 และในปี 2564 ที่เศรษฐกิจขยายตัวสูงถึงร้อยละ 6.2 แต่จากรายงานของ CBS ที่การค้าปลีกของเนเธอร์แลนด์ในเดือนมกราคมมีการขยายตัวเพิ่มขึ้น แสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคเนเธอร์แลนด์มีการใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้นในเดือนมกราคมที่ผ่านมาทั้งจากการซื้อขายออนไลน์และออฟไลน์ ทั้งนี้ อาจเป็นผลมาจากพฤติกรรมการช้อปปิ้งต่อเนื่องจากช่วงเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ ซึ่งร้านค้าปลีกส่วนใหญ่มีกิจกรรมส่งเสริมการขายในช่วงเทศกาลและมีการลดราคาสินค้าต่อเนื่องหลังเทศกาลตลอดเดือนมกราคม รวมถึงการใช้บัตรสมมนาคุณ บัตรของขวัญ หรือโบนัสจากการช้อปปิ้งที่ทำให้ผู้บริโภคมีการใช้จ่ายมากขึ้นในช่วงเวลาดังกล่าว และอัตราเงินเฟ้อที่ค่อยๆปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงไตรมาสที่ 3 และ 4 ของปีที่แล้ว ทำให้ผู้บริโภคมีกำลังซื้อมากขึ้นและกล้าที่จะใช้จ่ายมากขึ้นแม้ว่าจะเล็กน้อย รวมถึงพฤติกรรมผู้บริโภคที่ใส่ใจสุขภาพและสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ส่งผลให้มีการใช้จ่ายกับสินค้าที่มีความยั่งยืนมากขึ้น รวมถึงสินค้าอาหารที่จำหน่ายในร้านค้าที่จำหน่ายสินค้าอาหารเฉพาะหรืออาหารประเภทพิเศษ (Specialty Shops) ซึ่งแม้จะมีราคาสูงกว่า แต่ผู้บริโภคก็ยินดีที่จะจ่ายเพิ่มขึ้นให้กับคุณค่าและความมั่นใจในคุณภาพอาหารและความยั่งยืน
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงเฮก