ในการประชุมวันที่ 13 มีนาคม 2567 คณะรัฐมนตรีบังกลาเทศซึ่งมีนายกรัฐมนตรี เชค ฮาซินา เป็นประธาน ได้มีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2567 (แก้ไขเพิ่มเติม) บังคับใช้การประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับสำหรับยานพาหนะทุกประเภทที่วิ่งอยู่บนท้องถนน รวมถึงรถจักรยานยนต์ รถยนต์ส่วนตัว รถโดยสาร และรถบรรทุก มติดังกล่าวเป็นการแก้ไขพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2561 ซึ่งกำหนดให้ประกันภัยรถยนต์เป็นประกันทางเลือกหรือประกันภัยภาคสมัครใจ
ภายใต้ร่างกฎหมายใหม่ เจ้าของรถที่ไม่มีประกันจะถูกปรับ 3,000 ตากา (ประมาณ 1,000 บาท) การแก้ไขนี้จะเป็นการบังคับใช้การปฏิบัติตามกฎหมายด้านการประกันภัย เพื่อให้กฎหมายการขนส่งทางถนนของบังกลาเทศสอดคล้องกับมาตรฐานสากล และเพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่มียานพาหนะใด วิ่งบนถนนได้ หากไม่มีประกันภัย
ดังนั้น มติ ครม. จึงนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อแก้ไขความคลุมเครือของพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2561 โดยเฉพาะเกี่ยวกับข้อกำหนดด้านการประกันภัยและบทลงโทษผู้ละเมิดและการฝ่าฝืนกฎหมาย
กระทรวงการคลังบังกลาเทศได้ประเมินค่าใช้จ่ายของรัฐบาลที่เกิดขึ้นจากการประกันภัยภาคสมัครใจ ซึ่งคาดว่าจะอยู่ที่ 8,780 ล้านตากาต่อปี (ประมาณ 2,900 ล้านบาท) และข้อมูลกรมการขนส่งทางบก บังกลาเทศ ได้เผยแพร่ข้อมูลสถิติอุบัติเหตุในปี 2566 ว่ามีอุบัติเหตุทางถนน 7,837 ครั้ง ในจำนวนดังกล่าวเป็นอุบัติเหตุจากรถโดยสาร/รถมินิบัส (1,830 ครั้ง) รถจักรยานยนต์ (1,747 ครั้ง) และรถบรรทุก/รถตู้ (1,389 ครั้ง) เป็นยานพาหนะที่เกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุบนท้องถนนมากที่สุด
ยานพาหนะที่เหลืออีก 10 ประเภทเกิดอุบัติเหตุรวมทั้งสิ้น 3,618 ครั้ง ซึ่งรวมถึงรถสามล้อใช้มอเตอร์ในการขับเคลื่อน (497 ครั้ง) และจักรยานยนต์อีซี่ไบค์ (217 ครั้ง)
ที่มา นสพ. ท้องถิ่น https://www.tbsnews.net/ และ https://www.thedailystar.net/