การส่งออกของอินเดียโดยรวม (สินค้าและบริการ) ในเดือนธันวาคม 2566 มีมูลค่า 66.33 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หดตัว 4.25% เมื่อเทียบกับเดือนธันวาคม ปี 2565 ส่วนการนำเข้า มีมูลค่า 71.50 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หดตัว 7.18% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า
.
การส่งออกรวมภาคสินค้าและบริการของอินเดียสะสมระหว่างเมษายน – ธันวาคม 2566 มีมูลค่า 565.04 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หดตัว 1.87% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ส่วนการนำเข้าสะสมระหว่างเมษายน–ธันวาคม 2566 มีมูลค่า 634.39 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หดตัว 7.24% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า
.
1. การค้าสินค้า
การส่งออก เดือนธันวาคม 2566 มีมูลค่า 38.45 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ มากกว่าช่วงเดือนเดียวกันของปีก่อนที่ระดับ 38.08 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หากหักสินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมันและอัญมณีและเครื่องประดับมีมูลค่า 28.67 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ มากกว่าช่วงเดือนเดียวกันของปีก่อนที่ระดับ 27.19 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ สินค้าส่งออกสำคัญที่ขยายตัวดี ได้แก่ แร่เหล็ก ยาสูบ เนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์จากนม เครื่องเทศ ผักและผลไม้ สินค้าส่งออกสำคัญที่หดตัว ได้แก่ ธัญพืช ผลิตภัณฑ์จากปอกระเจา สินค้าปิโตรเลียม ข้าว สิ่งทอสำเร็จรูป
ขณะที่ภาพรวมการส่งออกสินค้า 9 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2023-2024 (เมษายน-ธันวาคม 2566) มีมูลค่า 317.12 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ น้อยกว่าช่วงเดือนเดียวกันของปีก่อนที่ระดับ 336.30 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หากหักสินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมันและและอัญมณีและเครื่องประดับแล้วมีมูลค่า 230.74 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ น้อยกว่าช่วงเดือนเดียวกันของปีก่อนที่ระดับ 233.73 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ
.
การนำเข้า เดือนธันวาคม 2566 มีมูลค่า 58.25 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ น้อยกว่าช่วงเดือนเดียวกันของปีก่อนที่ระดับ 61.22 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หากหักสินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมันและอัญมณีและเครื่องประดับแล้วมีมูลค่า 37.96 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ น้อยกว่าช่วงเดือนเดียวกันของปีก่อนที่ระดับ 38.04 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ สินค้านำเข้าสำคัญที่ขยายตัวดี ได้แก่ ทองคำ ฝ้ายและผลิตภัณฑ์จากฝ้าย เครื่องใช้ไฟฟ้า เมล็ดธัญพืช ผักและผลไม้ สินค้านำเข้าสำคัญที่หดตัว ได้แก่ ซัลเฟอร์และเหล็กที่ยังไม่ขึ้นรูป อุปกรณ์ด้านการขนส่ง น้ำมันพืชสำหรับบริโภค ปุ๋ยและวัตถุดิบผลิตปุ๋ย สินค้าด้านวิศวกรรม
ภาพรวมการนำเข้าสินค้า 9 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2023-2024 (เมษายน-ธันวาคม 2566) มีมูลค่า 505.15 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ น้อยกว่าช่วงเดือนเดียวกันของปีก่อนที่ระดับ 548.64 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หากหักสินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมันและอัญมณีและเครื่องประดับแล้วมีมูลค่า 320.75 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ น้อยกว่าช่วงเดือนเดียวกันของปีก่อนที่ระดับ 333.00 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ
ดุลการค้าสินค้า เดือนธันวาคม 2566 ขาดดุลการค้า 19.80 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ขณะที่ช่วงเดือนเดียวกันของปีก่อนหน้าขาดดุลที่ระดับ 23.14 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ทำให้อินเดียขาดดุลการค้าสินค้าสะสม 9 เดือนแรกมูลค่า 188.03 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งขาดดุลลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าที่ขาดดุล 212.34 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ
.
2. การค้าบริการ*
เดือนธันวาคม 2566 การส่งออกบริการมีมูลค่า 27.88 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ น้อยกว่าช่วงเดือนเดียวกันของปีก่อนที่ระดับ 31.19 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ การนำเข้า มีมูลค่า 13.25 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ น้อยกว่าช่วงเดือนเดียวกันของปีก่อนที่ระดับ 15.81 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ดุลการค้า เกินดุลมูลค่า 14.63 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ น้อยกว่าช่วงเดือนเดียวกันของปีก่อนที่ระดับ 15.38 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ
ภาพรวมการบริการ 9 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2023-2024 (เมษายน-ธันวาคม 2566) มีมูลค่าเกินดุล 118.68 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ มากกว่าช่วง 9 เดือนเดียวกันของปีก่อนหน้าที่ระดับ 104.21 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ
.
ข้อคิดเห็น
1. เดือนธันวาคม 2566 อินเดียขาดดุลการค้าน้อยสุดในรอบ 3 เดือน ที่ระดับ 19.8 พันล้าน
เหรียญสหรัฐ เนื่องจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดโลกที่ปรับตัวลงทำให้มูลค่าการนำเข้าสินค้าปรับลดลงตาม ในขณะที่การส่งออกสินค้าขยายตัว 0.96% เทียบกับช่วงเดียวกันจากปีก่อนหน้า และขยายตัว 13.4% จากเดือนก่อนหน้า นำโดยสินค้าวิศวกรรม อัญมณีและเครื่องประดับ เครื่องใช้ไฟฟ้าและเภสัชภัณฑ์ ในส่วนของการนำเข้า ทองคำเป็นสินค้าที่มีการนำเข้าในอัตราเพิ่มขึ้นสูงสุด คือ 156% เทียบจากช่วงเดียวกันปีที่แล้ว แต่ทองคำที่อินเดียนำเข้าส่วนใหญ่เพื่อใช้ผลิตเป็นส่วนประกอบของสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับและส่งออกกลับไปยังประเทศคู่ค้า
.
2. คาดการณ์ว่าในปีงบประมาณ 2024 อินเดียจะมีการนำเข้าเหล็กมากถึง 6 ล้านตัน
เนื่องจากมีความต้องการในประเทศสูงโดยเฉพาะในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างพื้นฐาน อาคาร และภาคการก่อสร้างอื่นๆ ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงระบบเศรษฐกิจภายในประเทศที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง รวมถึงแผนการรองรับการขยายตัวของหลายอุตสาหกรรมภายในประเทศในอนาคต
.
3. สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอล-ฮามาส ยังคงดำเนินต่อเนื่องและรุกรามมาถึง
พื้นที่ทะเล Red Sea ซึ่งเป็นเส้นทางขนส่งสินค้าที่สำคัญของอินเดีย โดยปัจจุบันอินเดียมีการส่งออกสินค้าไปยังยุโรปคิดเป็น 15% ของการส่งออกทั้งประเทศ และ 80% ของการส่งออกไปยังยุโรป จะขนส่งทางเรือผ่านทะเล Red Sea ผู้เชี่ยวชาญประเมินว่าสถานการณ์ความขัดแย้งในบริเวณดังกล่าวยังส่งผลกระทบต่อการขนส่งอินเดียไม่มากนักในขณะนี้ แต่ยังคงต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป เพราะหากสถานการณ์ยังยืดเยื้อ จะส่งผลต่อการขนส่งทั้งปัญหาความล่าช้าและค่าใช้จ่ายในการขนส่งที่เพิ่มสูงขึ้น
*****************
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ
ณ กรุงนิวเดลี
.
*หมายเหตุ: จากข้อมูลล่าสุดของธนาคารกลางอินเดีย ข้อมูลภาคบริการเปิดเผยถึงเดือนพฤศจิกายน 2566 ในส่วนของข้อมูลของเดือนธันวาคม 2566 เป็นเพียงการประมาณการ ซึ่งอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงในการเปิดเผยข้อมูลครั้งต่อไป
.
ข้อมูลอ้างอิง:
– Ministry of Commerce and Industry, 15 Jan 2023, Latest Trade Figures
– The Economic Times, 15 Jan 2024, December trade gap narrows to three-month low as exports grow
– The Hindu, 20 Dec 2023, India’s steel import to be elevated at 6MT in FY24 on strong demand: Crisil
– The Indian Express, 16 Jan 2024, Crisis can impact India as 80% of exports to Europe takes place via Red Sea
กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ
กระทรวงพาณิชย์
563 ถนน นนทบุรี ตำบล บางกระสอ
อำเภอเมืองนนทบุรี นนทบุรี 11000
โทรศัพท์: 02-507-7999
สายตรงการค้าระหว่างประเทศ: 1169
ผู้ใช้ที่กำลังออนไลน์ : 0 คน | จำนวนผู้เข้าชมทั้งหมด : 6025103 คน
สงวนลิขสิทธิ์ © 2023 กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ