สำนักข่าวรอยเตอร์ได้รายงานว่ากลุ่มทุน Signa Holding ของนาย René Benko นักลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ชาวออสเตรีย วัย 46 ปี ซึ่งกำลังประสบปัญหาทางการเงินและเร่งหาทางออก ได้ขายหุ้นของบริษัท Selfridges ห้างสรรพสินค้าชั้นนำในอังกฤษจำนวนร้อยละ 5 ให้กับกลุ่ม Central Group ของประเทศไทย ซึ่งทั้งสองรายได้ร่วมกันเข้าซื้อห้างสรรพสินค้าแห่งนี้เมื่อปีที่แล้วด้วยมูลค่าประมาณ 4.5 พันล้าน ยูโร และแบ่งสัดส่วนการถือครองหุ้นกันคนละครึ่ง ทำให้ Central Group ขึ้นเป็นเจ้าของห้างหรูขนาดใหญ่ที่สุดในยุโรปแห่งนี้อย่างเต็มตัวด้วยสัดส่วนหุ้นร้อยละ 55 แม้ข้อตกลงนี้ช่วยให้ Signa ซึ่งกำลังอยู่ในภาวะวิกฤตสามารถหายใจโล่งขึ้น แต่ปัญหาต่างๆ ยังคงรุมเร้าอย่างหนักจนเมื่อเร็วๆ นี้นาย Benko ได้ส่งมอบการบริหารงานให้กับนาย Arndt Geiwitz ผู้เชี่ยวชาญด้านการปรับโครงสร้าง นอกจากปัญหาในฟากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์แล้วผลประกอบการในธุรกิจค้าปลีก ซึ่งรวมถึงห้าง Galeria Karstadt Kaufhof ในเยอรมนี และห้าง Selfridges ในอังกฤษก็ประสบปัญหาเช่นเดียวกัน โดยมีสาเหตุหลักมาจากค่าเช่าที่มีราคาสูงขึ้นมากและการระมัดระวังการใช้จ่ายเงินของลูกค้า นอกจากนี้ ล่าสุด Signa ยังได้ถอนตัวจากการร่วมทุนกับบริษัท Eataly ห้างค้าปลีกสินค้าอาหารอิตาลีชื่อดัง ในการขยายสาขาในประเทศเยอรมนีและออสเตรีย หลังจากเปิดบริการได้เพียงหนึ่งสาขาในเมืองมิวนิค เยอรมนี โดยได้ขายหุ้นส่วนทั้งหมดคืนให้กับผู้ร่วมทุนจากอิตาลี
แหล่งที่มา Der Standard และ www.retailreport.at
ข้อเสนอแนะและความคิดเห็นสำนักงานฯ
กลุ่ม Signa Holding และบรรดาบริษัทลูกประสบปัญหาทางธุรกิจจนตกเป็นข่าวรายวันในช่วงที่ผ่านมาเกี่ยวกับการขายหุ้นส่วนในโครงการร่วมทุนต่างๆ อาทิ ห้าง Selfridges ในกรุงลอนดอนตามที่เป็นข่าว ทำให้กลุ่มเซ็นทรัลขึ้นเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อย่างเต็มตัว นอกจากนี้ ในกรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย ยังมีโครงการร่วมทุนระหว่างกลุ่ม Signa และกลุ่ม Central อีกหนึ่งโครงการในการสร้างห้างสรรพสินค้าและโรงแรมในย่านช็อปปิ้งยอดนิยม ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้างและคาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงในปี 2567 อย่างไรก็ดี ยังไม่มีรายงานว่าโครงการดังกล่าวได้รับผลกระทบหรือไม่อย่างไร
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงเวียนนา
พฤศจิกายน 2566