นักเศรษฐศาสตร์ชี้ GDP ล่าสุดส่งสัญญาณเศรษฐกิจเช็กออกจากโซนถดถอย

 

สำนักงานสถิติแห่งสาธารณรัฐเช็ก ได้รายงานตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของสาธารณรัฐเช็กในไตรมาสแรก ขยายตัวได้ร้อยละ 0.1  ซึ่งต่างกับตัวเลขคาดการณ์ของ Reuters ที่ระบุว่าเศรษฐกิจจะหดตัวร้อยละ 0.1  โดยเมื่อเทียบตัวเลข GDP กับช่วงเดียวกันของปี 2565  พบว่า GDP ปรับลดลงอยู่ที่ร้อยละ 0.2 แต่หดตัวลงน้อยกว่าที่คาดไว้   ซึ่งปัจจัยหลักที่ทำให้ตัวเลข  GDP ดีขึ้นกว่าที่คาดการณ์ไว้ คือดีมานด์ที่เพิ่มขึ้นของตลาดต่างประเทศ  แต่ทว่าปัจจัยลบยังคงมีอยู่ จากการจับจ่ายลดลงของครัวเรือน

สาธารณรัฐเช็กเป็นประเทศแรกในยุโรปกลาง ที่รายงานตัวเลข GDP ในไตรมาสแรก  ซึ่งแต่ละประเทศในแถบนี้ต่างก็ได้รับผลกระทบจากภาวะเงินเฟ้อ ที่มาจากราคาพลังงานที่พุ่งสูงขึ้นเมื่อปีที่ผ่านมา  ในปลายปี 2565 ภาวะเศรษฐกิจของเช็กและฮังการี ต่างก็เผชิญกับเศรษฐกิจถดถอย ด้วยตัวเลข GDP หดตัวลงสองไตรมาสติดต่อกัน  ซึ่งนักเศรษฐศาสตร์จากธนาคาร Komerci ระบุว่า ตัวเลข GDP ที่ขยายตัวขึ้นได้ร้อยละ 0.1 ดังกล่าว แสดงให้เห็นว่าภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้สิ้นสุดลงแล้วในไตรมาสที่ผ่านมา

ทั้งนี้ สำนักงานสถิติเช็ก ไม่ได้ให้รายละเอียดของข้อมูลรายงานตัวเลขดังกล่าว แต่ระบุว่าความต้องการสินค้าจากต่างประเทศเป็นปัจจัยหนุนเศรษฐกิจของประเทศ ขณะที่ภาคครัวเรือนยังคงมีการบริโภคลดลง

สำหรับเงินเฟ้อที่ได้พุ่งสูงขึ้นเป็นตัวเลขสองหลัก ขณะนี้ดูเหมือนว่าอัตราเงินเฟ้อได้ผ่านช่วงที่พุ่งขึ้นสูงสุดแล้ว  อย่างไรก็ดี อัตราดอกเบี้ยปัจจุบันยังคงสูงและธนาคารกลางยังไม่เร่งที่จะปรับลดดอกเบี้ยจนกว่าราคาสินค้าที่เพิ่มขึ้นจะอยู่ในระดับที่ควบคุมได้

สำหรับตัวเลขของภาคอุตสาหกรรมการผลิต ยังคงปรับลดลงในช่วงเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์  โดยปรับลดลงจาก 48.3 มาอยู่ที่ 46.6 ในเดือนมีนาคม  ขณะเดียวกัน การลงทุนทางการเงินลดลงจากที่เคยเติบโตในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา  โดยที่ผ่านมามีการขยายตัวของอุตสาหกรรม และการค้า การขนส่ง ที่พักอาศัย และธุรกิจบริการอาหาร  การก่อสร้าง ข้อมูลและการสื่อสารที่ค่อนข้างประสบความสำเร็จและเป็นสาขาเศรษฐกิจหลัก ของประเทศ

นักวิเคราะห์มีการคาดคะเนภาวะเศรษฐกิจจากรายงานตัวเลข GDP โดยคาดหวังว่า ตัวเลขจากรายงานดังกล่าว เป็นสัญญาณบ่งขี้ให้เห็นว่าภาวะเศรษฐกิจหดตัวได้สิ้นสุดลงแล้ว  และนักวิเคราะห์บางกลุ่มคาดว่าจะมีการบริโภคของครัวเรือนมากขึ้น  โดยมีตัวชี้วัดจากยอดขายของธุรกิจค้าปลีกและภาคบริการ  สำหรับปัจจัยลบที่มาจากราคาพลังงานที่สูงขึ้นไม่ได้มีผลอะไร และความรู้สึกของผู้บริโภคนั้นเริ่มปรับมาสู่ทิศทางบวกในช่วงต้นปีนี้แล้ว  โดยนักวิเคราะห์จากธนาคาร  Česká spořitelna ระบุว่า  GDP จะขยายตัวประมาณร้อยละ 0.2  ขณะที่ Komerční banka’s Gürtler  คาดว่าจะขยายตัวได้ร้อยละ 0.6

ข้อเสนอแนะ/โอกาส/แนวทาง

นักวิเคราะห์ในสาธารณรัฐเช็กหลายรายให้ความเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่า ภาวะเศรษฐกิจของสาธารณรัฐเช็กที่หดตัวลงในปีที่ผ่านมาได้สิ้นสุดลงแล้ว จากรายงานตัวเลข GDP ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2566  ที่หดตัวลงน้อยกว่าที่หลายฝ่ายได้คาดการณ์ไว้  ทั้งนี้ แม้ว่าในส่วนของภาคครัวเรือนจะยังคงลดการจับจ่ายใช้สอย แต่ด้วยกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่มีมากขึ้นในช่วงไตรมาส 2 เป็นต้นไป คาดว่าการจับจ่ายของครัวเรือนน่าจะมีมากขึ้น รวมไปถึงมาตรการของรัฐบาลในเรื่องราคาพลังงานที่ออกมาตั้งแต่เดือนมีนาคม ทำให้ผู้บริโภคมีความรู้สึกผ่อนคลายและน่าจะมีการจับจ่ายใช้สอยเพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง

สำหรับปัจจัยหลักที่หนุนให้เศรษฐกิจของสาธารณรัฐเช็กเริ่มเป็นไปในทิศทางบวก ที่มาจากความต้องการสินค้าจากตลาดต่างประเทศนั้น จะทำให้สินค้าไทยมีโอกาสทางการตลาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้าที่ใช้ในการผลิต อาทิ กลุ่ม semi conduct ชิ้นส่วน ส่วนประกอบ  ทั้งนี้ การผลิตสินค้าที่สามารถลดต้นทุนและแข่งขันได้ในเรื่องราคา ยังคงมีความสำคัญในช่วงเวลานี้  ผู้ประกอบการควรติดตามสถานการณ์ในตลาดเป้าหมายอย่างใกล้ชิดต่อไป และควรเตรียมแผนบริหารจัดการการส่งมอบสินค้า เพื่อสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าได้อย่างยั่งยืน

*********************************

ที่มา : Prague Morning และ Expat.cz

プラハ国際貿易促進局

jaJapanese