การอ่อนค่าของเงินรูปีอินเดียเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในช่วงนี้ ได้ก่อให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจ แม้ว่าภาพการเติบโตโดยรวมและอัตราเงินเฟ้อจะไม่ได้รับผลกระทบมากนัก แต่แรงกดดันหลักจะตกอยู่กับผู้นำเข้าและภาคการค้า จากข้อมูลในอดีตแสดงให้เห็นว่าเงินรูปีมีการอ่อนค่าประมาณ 2-5% ต่อปีในหลายปีที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2562 อัตราการอ่อนค่าของเงินรูปีเฉลี่ยอยู่ที่ 3.3% ต่อปี ทั้งนี้ ค่าเงินรูปีแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์อย่างต่อเนื่องในเดือนธันวาคม 2567 เนื่องจากการปรับขึ้นของดัชนี US Dollar Index (หุ้น DXY) และพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ
ผลกระทบต่อเงินเฟ้อ
1. สินค้านำเข้าราคาแพงขึ้น :การอ่อนค่าของรูปีทำให้ต้นทุนการนำเข้าสินค้าสูงขึ้น เช่น น้ำมันดิบ อิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องจักร อย่างไรก็ตาม ผลกระทบต่อเงินเฟ้ออาจจำกัด หาก:
– ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดโลกยังคงทรงตัวหรือปรับลดลง
– รัฐบาลรับภาระบางส่วน เช่น การปรับลดของภาษีเชื้อเพลิง
2. เงินเฟ้อพื้นฐานยังคงเสถียร: เงินเฟ้อพื้นฐาน (ไม่รวมอาหารและเชื้อเพลิง) อาจไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เนื่องจากอุปสงค์ในประเทศมีบทบาทสำคัญกว่า
ผลกระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ
1) การส่งออกมีข้อได้เปรียบมากขึ้น: ค่าเงินรูปีที่อ่อนค่าทำให้สินค้าส่งออกของอินเดีย เช่น กลุ่มสินค้า IT สิ่งทอ และยา สามารถแข่งขันในตลาดสากลได้เพิ่มขึ้น ซึ่งอาจช่วยชดเชยความเสี่ยงของภาวะการเติบโตในบางสาขา
2) ต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นสำหรับบางอุตสาหกรรม: อุตสาหกรรมที่ต้องพึ่งพาวัตถุดิบนำเข้า อาจเผชิญกับต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น ส่งผลต่อกำไรและความสามารถด้านการลงทุน
3) อุปสงค์ในประเทศไม่ได้รับผลกระทบมากนัก: หากอัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับที่ควบคุมได้ ผลกระทบต่ออุปสงค์ผู้บริโภคและการเติบโตทางเศรษฐกิจจะค่อนข้างน้อย
อย่างไรก็ดี เมื่อมองในบริบทที่กว้างขึ้น ค่าเงินทั่วโลก รวมถึงเงินรูปี มีการอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ หลังจากที่โดนัลด์ ทรัมป์ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ และหากพิจารณาแล้ว เงินสกุลรูปีมีการอ่อนค่าลดลงที่สุดเมื่อเทียบกับค่าเงินหลักอื่นๆ ซึ่งในมุมมองของภาคธุรกิจอาจสร้างความความท้าทายให้กับผู้นำเข้าในอินเดีย เช่น ต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้น อุตสาหกรรมที่พึ่งพาการนำเข้าต้องแบกรับต้นทุนวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้นในขณะที่กำไรลดลง ธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลาง (SMEs) ประสบปัญหาในการผลักภาระด้านราคาที่เพิ่มขึ้นไปยังผู้บริโภค ปริมาณการค้าอาจลดลงทำให้ผู้นำเข้าลดการนำเข้าสินค้าที่ไม่จำเป็นเพื่อลดต้นทุน ซึ่งอาจทำให้กิจกรรมทางการค้าชะลอตัว
ผลกระทบต่อภาคส่วนต่างๆ
ภาคธุรกิจที่อาจได้รับผลกระทบเชิงบวก
1. ไอทีและการบริการ: อุตสาหกรรมที่ขับเคลื่อนด้วยการส่งออก เช่น เทคโนโลยี/IT จะได้เปรียบจากการรับชำระเงินเป็นสกุลเงินต่างประเทศที่มีค่าเงินที่ดีกว่า
2. สิ่งทอ: ความต้องการในกลุ่มธุรกิจสิ่งทอจากอินเดียในตลาดต่างประเทศอาจเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีราคาที่สามารถแข่งขันได้
3. เภสัชกรรม: บริษัทเภสัชกรรมที่เน้นการส่งออกอาจได้รับอานิสงค์จากรายได้ที่เพิ่มขึ้นตามเงินสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ
ภาคธุรกิจที่อาจได้รับผลกระทบเชิงลบ
1. น้ำมันและก๊าซ: การพึ่งพาการนำเข้าน้ำมันดิบสูง ส่งผลให้ราคาน้ำมันและต้นทุนพลังงานเพิ่มขึ้น
2. ยานยนต์: อุตสาหกรรมที่ต้องพึ่งพาชิ้นส่วนนำเข้าจากต่างประเทศอาจเผชิญกับต้นทุนที่สูงขึ้น ส่งผลกระทบต่อราคา
ยานยนต์และความต้องการของสินค้าในภาพรวม
3. สินค้าอิเล็กทรอนิกส์: ผลิตภัณฑ์ เช่น สมาร์ทโฟน แล็ปท็อป และเครื่องใช้ไฟฟ้า มีราคาสูงขึ้น ทำให้ความต้องการของผู้บริโภคลดลง
4. การศึกษาและการท่องเที่ยว: ค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นสำหรับนักเรียนที่ศึกษาในต่างประเทศ และภาคการท่องเที่ยวอาจเผชิญกับภาวะที่ความสามารถในการเดินทางระหว่างประเทศลดลง
ข้อคิดเห็น
แม้การอ่อนค่าของเงินสกุลรูปีจะสร้างความท้าทายให้กับทั้งผู้นำเข้าของอินเดียและผู้ส่งออกของไทย แต่ในขณะเดียวกัน นับว่าเป็นการเปิดโอกาสให้กับผู้ส่งออกสามารถเรียนรู้เรื่องการปรับตัวและวางแผนเชิงกลยุทธ์ให้เหมาะสมกับภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ความเปลี่ยนแปลงทางการค้าที่เกิดขึ้นนี้ ส่งผลให้เกิดการเรียกร้องต่อหน่วยงานภาครัฐให้เข้ามาดำเนินมาตรการเชิงรุก เพื่อรักษาความสัมพันธ์ทางการค้าแบบทวิภาคีและลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากความผันผวนของค่าเงินให้น้อยที่สุด อย่างไรก็ดี ผู้ประกอบการไทยควรศึกษาข้อมูลในหลายมิติเพื่อลดผลกระทบต่อธุรกิจที่อาจเกิดขึ้น การพิจารณาการป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน ผ่านการใช้กลยุทธ์ด้านการประกัน เช่น กองทุนที่มีการป้องกันความเสี่ยงค่าเงิน (Hedging) อาจทำให้สามารถลดการสูญเสียจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนได้ นอกจากนี้ การขยายความร่วมมือกับผู้จัดจำหน่ายและกระจายสินค้าในตลาดอินเดีย เพื่อพัฒนากลยุทธ์ด้านการตั้งราคาที่เหมาะสมกับตลาดท้องถิ่นและการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย จะมีส่วนช่วยให้ธุรกิจมีการปรับตัวในภาวะที่ไม่เสถียรกับเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนที่เกิดขึ้นได้
ที่มา: 1. https://economictimes.indiatimes.com/news/economy/foreign-trade/rupee-weakening-limited-impact-on-inflation-growth-but-importers-to-face-pressure/articleshow/117209499.cms
2.https://www.theweek.in/news/biz-tech/2025/01/04/rupee-inr-depreciation-currency-india-forex-dollar.html
3.https://economictimes.indiatimes.com/news/economy/foreign-trade/rupee-depreciation-yields-limited-benefits-for-exporters-experts/articleshow/117205855.cms?from=mdr