ผลกระทบทางการเมืองกดยอดขายรถยนต์ในบังกลาเทศ

ผลกระทบทางการเมืองกดยอดขายรถยนต์ในบังกลาเทศ

ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมปีนี้ ท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจและความไม่แน่นอนทางการเมืองทำให้กระทบยอดขายรถยนต์ในบังกลาเทศเป็นอย่างมาก ทำให้ความหวังในการฟื้นตัวจากภาวะซบเซาทางเศรษฐกิจเป็นไปอย่างยากลำบาก

การลดลงของยอดขาย

แม้ว่าข้อมูลที่เชื่อถือได้จะหาได้ยาก แต่ผู้จำหน่ายรถยนต์ประเมินว่ายอดขายรถยนต์รายเดือนลดลงอย่างน้อย 70% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงก่อนหน้า ในช่วงเดือนกรกฎาคม ยอดขายรถยนต์ลดลงเหลือประมาณ 400 ถึง 450 คันต่อเดือน เมื่อเทียบกับ 1,700 ถึง 1,800 คันในช่วงหกเดือนแรกของปี โดยเฉลี่ยแล้วมีการจดทะเบียนรถยนต์ประมาณ 1,747 คันต่อเดือนในช่วงเดือนมกราคมถึงมิถุนายน อย่างไรก็ตาม ข้อมูลสำหรับเดือนถัดไปยังไม่เผยแพร่

ในปี 2023 มีการจดทะเบียนรถยนต์ทั้งหมด 8,549 คัน ซึ่งต่ำกว่าปี 2022 ที่มีการจดทะเบียน 23,651 คัน การลดลงนี้อาจสะท้อนถึงการตัดสินใจของผู้บริโภคที่ชะลอการซื้อรถใหม่

ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง

ความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองที่เกิดขึ้นในบังกลาเทศเมื่อต้นเดือนสิงหาคมหลังจากการล้มรัฐบาลของพรรคอวามีลีก ส่งผลให้เกิดความไม่แน่นอนในตลาดรถยนต์ ผู้จำหน่ายรถยนต์หลายคนระบุว่าผู้บริโภคกำลังรอดูสถานการณ์ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อรถ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพูดถึงการฟื้นตัวของสถานการณ์ที่มั่นคง

“เราไม่คาดคิดว่าตลาดจะซบเซาเช่นนี้” ชาฟิคุล อิสลาม หัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการของ HNS Automobiles กล่าว “เราคาดว่าการขายจะเพิ่มขึ้น แต่การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองที่กะทันหันกลับทำให้การคำนวณในตลาดกลับตาลปัตร”

ความท้าทายทางเศรษฐกิจ

นอกจากปัญหาทางการเมืองแล้ว การที่ค่าเงินเยนญี่ปุ่นแข็งค่าขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้ภาษีนำเข้าสูงขึ้น ทำให้ราคารถยนต์แพงขึ้น โดยเฉพาะในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา ราคารถยนต์เพิ่มขึ้นจาก 1 แสนถึง 1.5 แสนตากา ซึ่งเป็นภาระเพิ่มเติมสำหรับผู้บริโภค

อัตราดอกเบี้ยสูงสำหรับสินเชื่อรถยนต์ยังเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ผู้ซื้อไม่กล้าตัดสินใจซื้อรถ ขณะที่ผู้จำหน่ายรถยนต์ก็มีภาระในการชำระหนี้ธนาคาร ทำให้สถานการณ์โดยรวมของตลาดรถยนต์ยังไม่เอื้ออำนวยสำหรับการซื้อรถของผู้บริโภคระดับกลาง

แนวโน้มในอนาคต

ฮาบิบ อุลลาห์ ดาวน์ ประธานสมาคมผู้จำหน่ายและนำเข้ารถยนต์ที่ผ่านการปรับสภาพของบังกลาเทศ (BARVIDA) กล่าวว่าการขายรถยนต์จะยังคงลดลง 70% จนกว่าจะมีการเพิ่มความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยและความมั่นคงทางการเมือง “หากมีการพัฒนาในสถานการณ์ ตลาดจะมีการเปลี่ยนแปลงภายในสามเดือน” เขากล่าว

ถึงแม้ว่าสถานการณ์จะย่ำแย่ แต่เขายังเชื่อว่าการฟื้นตัวจะเกิดขึ้น “เราเคยประสบปัญหาในช่วงโควิด-19 แต่สามารถฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้นเราจึงมีความหวังว่าจะฟื้นตัวจากปัญหาที่เกิดขึ้นในขณะนี้”

สรุป

สถานการณ์การขายรถยนต์ในบังกลาเทศอยู่ในช่วงที่ท้าทาย โดยมีปัจจัยทั้งด้านการเมืองและเศรษฐกิจเข้ามาเกี่ยวข้อง การลดลงของยอดขายที่รุนแรงในช่วงที่ผ่านมาอาจทำให้ผู้ประกอบการและผู้บริโภคต้องใช้เวลาในการปรับตัวและรอคอยการฟื้นตัวของตลาดในอนาคต ความมุ่งมั่นในการสร้างความมั่นคงและการพัฒนาเศรษฐกิจจะเป็นกุญแจสำคัญในการเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ในตลาดรถยนต์ให้กลับมาสดใสอีกครั้ง

ที่มา ภาพ/ข่าว หนังสือพิมพ์ท้องถิ่น https://www.thedailystar.net/

jaJapanese