งานแสดงสินค้า Maison & Objet ให้ความสำคัญกับงานออกแบบที่แตกต่างและสินค้าที่ผลิตขึ้นในจำนวนจำกัด (Limited Edition)

  • งานแสดงสินค้า Maison & Objet (M&O) จัดขึ้นปีละสองครั้งในเดือนมกราคมและเดือนกันยายนของทุกปี ณ ศูนย์แสดงสินค้าเมือง Villepinte ซึ่งหากนับจากพื้นที่จัดงานในแต่ละครั้งแล้ว อาจจัดได้ว่าเป็นงานแสดงสินค้าสำหรับผู้ประกอบการ (B2B) ที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับหนึ่งของฝรั่งเศส     สำหรับงานที่จะมีขึ้นในช่วงระหว่างวันที่ 5 – 9 กันยายน ที่จะถึงนี้เป็นการจัดงานครบรอบ 30 ปี  โดยในครั้งนี้ผู้จัดงานเน้นนโยบายสำคัญสองด้าน ได้แก่ การคัดเลือกสินค้าสร้างสรรค์ใหม่ที่มีความแตกต่าง และสินค้าที่มีผลิตขึ้นในจำนวนจำกัด  ( Limited Edition)  รวมถึงสินค้าประเภท Exclusive Collection ที่ออกแบบมาสำหรับโครงการใดโครงการหนึ่งโดยเฉพาะ
  • นาง Mélanie Leroy ผู้อำนวยการทั่วไปบริษัท SAFI ผู้จัดงาน M&O กล่าวว่าทางบริษัทผู้จัดต้องการให้เดือนกันยายนเป็นช่วงเวลาแห่งงานสร้างสรรค์    ดังนั้นทาง SAFI จึงได้จัดงานคู่ขนานขึ้นมาในช่วงเวลาเดียวกันกับการจัดงานแสดงสินค้าที่ Villepinte  ได้แก่ งาน Paris Design Week Factory จัดขึ้นในย่าน Marais กลางกรุงปารีสโดยในปีนี้มีโครงการได้รับเลือกเข้าร่วมมากกว่า 100 โครงการจากทั่วโลก           และการจัดประกวดงานสร้างสรรค์ Future on Stage สำหรับแบรนด์หน้าใหม่ที่ก่อตั้งมาน้อยกว่า 3 ปี  ซึ่งในปีนี้ผู้สมัครเข้าร่วมเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 30 นอกเหนือจากทั้งสองงานที่กล่าวมาแล้วทาง SAFI ซี่งอยู่ในกลุ่มเดียวกับบริษัท RX France และ Ateliers d’Arts de France  ยังเป็นผู้บริหารเว็บไซต์ตลาดดิจิทัล MOM ด้วยเช่นเดียวกัน       ซึ่งในช่วงระหว่างการจัดงานในเดือนกันยายนปี 2023 มีการเจรจาธุรกิจรวมกันทุกช่องทางคิดเป็นมูลค่าไม่ต่ำกว่า 957 ล้านยูโร
  • ผู้เข้าร่วมงาน M&O กว่าร้อยละ 95 ล้วนมาเพื่อศึกษาแนวโน้มและดูความต้องการของตลาด ในส่วนของผู้มาแสดงงานย่อมอยากได้คู่ค้ารายใหม่   ดังนั้นผู้จัดงานจึงเลือกที่จะสร้างเนื้อหาในการจัดงานแต่ละครั้งให้แตกต่างกันไป เพื่อจะได้กระจายตลาดสินค้าและนำเสนอแบรนด์ต่างๆได้อย่างทั่วถึง
  • งานที่จะมีขึ้นในสัปดาห์นี้ มีผู้เข้าร่วมแสดงงานจำนวนทั้งสิ้นกว่า 2,300 แบรนด์ โดยร้อยละ 27 เป็นแบรนด์ใหม่ที่เพิ่งเข้าร่วมงาน     ตัวเลขของผู้เข้าร่วมงานในช่วงเวลาเดียวกันของปี 2023 มีผู้เข้าชมงาน 59,800 ราย (เพิ่มขึ้นร้อยละ 2 ) และงานครั้งที่ผ่านมาในเดือนมกราคมปีนี้ มีแบรนด์เข้าร่วมงาน 2,500 แบรนด์โดยร้อยละ 26 เป็น    แบรนด์ใหม่และมีผู้เข้าร่วมงาน 70,700 ราย (เพิ่มขึ้นร้อยละ 5)
  • ในส่วนของเว็บไซต์ MOM นำเสนอสินค้ามากกว่า 55,000 รายการและมีผู้เข้าชมในแต่ละปี 3 ล้านรายเพิ่มขึ้นร้อยละ 6 มีจำนวนสมาชิก 340,000 ราย ซึ่งร้อยละ 56 จากจำนวนนี้เป็นผู้ประกอบการที่ซื้อสินค้าผ่านช่องทางนี้เพียงอย่างเดียวเท่านั้นและมีความต้องการพบปะคู่ค้าในงานแสดงสินค้าโดยตรงเช่นเดียวกัน     โดยในงานนี้แบรนด์ส่วนหนึ่งที่ปรากฏบนเว็บไซต์จำนวน 800 แบรนด์จะมาร่วมแสดงในงาน
  • นาง Mélanie Leroy กล่าวว่าสถานการณ์ค้าปลีกทั้งในฝรั่งเศสและทั่วทั้งยุโรปกำลังอยู่ในช่วงผ่านกระแสคลื่นลม ดังนั้นมีเพียงกลยุทธ์ในการสร้างความแตกต่างอย่างชัดเจนเท่านั้นถึงจะช่วยให้ผ่านพ้นไปได้  โดยเฉพาะในตลาดธุรกิจบริการ ( Hospitality Business) ที่ยิ่งจะต้องสร้างความโดดเด่นมากกว่าธุรกิจอื่นๆ
  • ดังนั้นผู้จัดงานจึงได้วางนโยบายที่จะเชื่อมต่อและสร้างสัมพันธ์ระหว่างผู้ประกอบการให้ครบทุกด้าน ซึ่งได้แก่ นโยบาย IN – งานแสดงสินค้าที่จัดขึ้นที่ศูนย์แสดงสินค้าเมือง Villepinte , นโยบาย Off – การจัดงาน Paris Design Week Factory ที่อยู่ในกรุงปารีส และนโยบายการทำตลาดออนไลน์เว็บไซต์ MOM ที่สามารถทำการตลาดได้ตลอดทั้งปี  
  • งานที่จะมีขึ้นในครั้งต่อไปในช่วงระหว่างวันที่ 16-20 มกราคมปี 2025 ที่จะถึงนี้ นอกเหนือจากนโยบายเน้นสินค้าสำหรับตลาดบนและสินค้าออกแบบที่มีจำนวนน้อยชิ้น ( limited collection ) หรือมีเพียงชิ้นเดียวแล้ว    แนวทางอื่นๆที่จะเกิดขึ้นในงานครั้งหน้า ได้แก่
    1. การคัดสรรงานออกแบบสำหรับเก็บสะสม “Collectible Design” และงานที่ออกแบบมาเพื่อใช้ในโครงการใดโครงการหนึ่งโดยเฉพาะ ซึ่งเหมาะสำหรับธุรกิจงานบริการ เช่น โรงแรม ร้านอาหาร
    2. โซน “What’s new in hospitality” ทางผู้จัดได้มอบหายให้นาย Julien Sebban สถาปนิกที่ได้รับการกล่าวถึงในช่วงเวลานี้เป็นผู้คัดสรรงานที่จะเข้าร่วมแสดง
    3. โซนแสดงสินค้า “Signature” จะให้พื้นที่สำหรับนักออกแบบ 20 รายในการแสดงผลงาน
    4. การขยายพื้นที่โซนสินค้าแฟชั่นและสินค้าของแต่งบ้านที่เป็นแฟชั่นมากขึ้น เนื่องจากตัวแทนผู้จัดจำหน่ายสินค้ามากกว่า 300,000 รายต้องการขยายตลาดจากของตกแต่งบ้านมายังสินค้าแฟชั่น เพื่อสร้างความหลากหลายในการนำเสนอสินค้าให้กับลูกค้า     โดยในงานนี้แบรนด์แฟชั่นหลายๆแบรนด์  ดังเช่น แบรนด์กระเป๋า Cabaia, Faguo แบรนด์สินค้าแฟชั่นเพื่อความยั่งยืนสำหรับผู้ชาย และแบรนด์ถุงเท้า Bleuforet ต่างเข้าใจความต้องการของตลาดนี้เป็นอย่างดีจึงปรับเพิ่มให้สินค้ามีความหลายหลายมากขึ้นทั้งในส่วนสินค้าที่วางขายในร้านของตัวเองและสินค้าที่วางขายในร้าน Concept Store ซึ่งจะช่วยเพิ่มยอดขายได้

ความคิดเห็น สคต.

  • งาน M&O ที่จะมีขึ้นในครั้งนี้ เช่นเดียวกับทุกครั้งที่ผ่านมา มีการจัดแบ่งโซนตามแนวโน้มตลาดสินค้าและแรงบันดาลใจจากงานออกแบบไว้ด้วยกัน 11 โซน และมีการสัมมนาเชิงวิชาการกับ Work Shop หลากหลายหัวข้อนำโดยนักออกแบบและผู้ประกอบการที่มีชื่อเสียงในวงการสินค้าตกแต่งบ้านและสินค้าแฟชั่นของฝรั่งเศสและระดับนานาชาติ   งาน M&O ที่จัดขึ้นเพียงไม่กี่วันนี้จึงเป็นโอกาสอันดีให้ผู้ประกอบการไทยที่ได้มาร่วมงาน ได้ศึกษาข้อมูลตลาดเพิ่มเติมเพื่อนำไปปรับปรุงพัฒนาสินค้าในอนาคต
  • ดังที่กล่าวมาในเนื้อข่าวข้างต้นว่าตลาดค้าปลีกสินค้าตกแต่งบ้านและสินค้าแฟชั่นทั้งในฝรั่งเศสและทั่วทวีปยุโรปต่างได้รับผลกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจเช่นเดียวกันกับทั่วโลก  ดังนั้นจึงมีความจำเป็นอย่างมากที่ผู้ประกอบการต้องกำหนดนโยบายการตลาดที่ชัดเจน และสร้างสรรค์สินค้าให้มีความแตกต่างและโดดเด่น  ร่วมกับการทำตลาดในทุกช่องทาง  ดังเช่นการทำตลาดของ M&O ที่มีทั้งงานแสดงสินค้า (Offline) และเว็บไซต์ MOM (Online) จึงจะช่วยให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้มากที่สุด

สำหรับผู้ประกอบการที่มีความสนใจสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

https://www.maison-objet.com/en/paris

ที่มาของข่าว

Martine Robert

ข่าวจากหนังสือพิมพ์ออนไลน์ Les Echos

https://www.lesechos.fr/industrie-services/services-conseils/design-emergent-editions-limitees-les-deux-priorites-des-salons-maison-objet-2116224

jaJapanese