1.สถานการณ์การค้าภาพรวมของออสเตรเลีย [1]
ปี 2567 เดือนมกราคม–มีนาคม สถานการณ์การส่งออกสินค้าของออสเตรเลีย มีมูลค่า 86,367 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (หดตัวร้อยละ 12.58) เป็นการส่งออกถ่านหินบิทูมินัส (ร้อยละ 34.92) สินแร่และหัวแร่เหล็ก (ร้อยละ 29.50) ทองคำยังไม่ได้ขึ้นรูป (ร้อยละ 7.00) เนื้อสัตว์สำหรับบริโภค (ร้อยละ 3.42) และข้าวสาลีและเมสลิน (ร้อยละ 3.41) ประเทศส่งออกหลัก คือ จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ สหรัฐอเมริกา และอินเดียสำหรับประเทศไทยเป็นคู่ค้าอันดับที่ 13 (น้ำมันปิโตรเลียมดิบ ทองคำยังไม่ได้ขึ้นรูป ทองแดงบริสุทธิ์ อะลูมิเนียมที่ยังไม่ได้ขึ้นรูป และข้าวสาลีและเมสลิน)
ปี 2567 เดือนมกราคม–มีนาคม การนำเข้าสินค้าของออสเตรเลีย มีมูลค่า 68,940 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ขยายตัวร้อยละ 0.30) โดยเป็นการนำเข้ารถยนต์สำหรับขนส่งบุคคลและขนส่งของ (ร้อยละ 15.47 ) น้ำมันปิโตรเลียมดิบและน้ำมันดิบที่ได้จากแร่บิทูมินัส (ร้อยละ 14.13) เครื่องคอมพิวเตอร์ขนาดพกพา (ร้อยละ 14.06) เครื่องโทรศัพท์สำหรับเครือข่ายเซลลูลาร์หรือเครือข่ายไร้สายอื่นๆ (ร้อยละ 10.14) ยารักษาหรือป้องกันโรค (ร้อยละ 4.11) ประเทศคู่ค้าสำคัญ คือ จีน สหรัฐอเมริกา เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และไทย ปี 2567 เดือนมกราคม–มีนาคม ออสเตรเลียได้ดุลการค้า 17,427 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ไทยเป็นคู่ค้าอันดับที่ 5 มีมูลค่า 3,587 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ขยายตัวร้อยละ 29.27) (สินค้านำเข้าหลักจากไทย 5 อันดับแรกได้แก่ รถยนต์ เครื่องปรับอากาศ เครื่องโทรศัพท์สำหรับเครือข่ายเซลลูลาร์หรือเครือข่ายไร้สายอื่นๆ ยางรถยนต์ใหม่ แชมพูและผลิตภัณฑ์ที่ไช้กับเส้นผม) และ ไทยเป็นฝ่ายได้ดุลการค้า 2,117.28 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (78,339.36 ล้านบาท)
สถานการณ์การส่งออกสินค้าของออสเตรเลียในเดือนมีนาคม 2567 มีมูลค่า 29,473 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (หดตัวร้อยละ 14.90) โดยเป็นผลมาจากการส่งออกถ่านหินบิทูมินัส (ร้อยละ 33.27) สินแร่และหัวแร่เหล็ก (ร้อยละ 29.63) ทองคำยังไม่ได้ขึ้นรูป (ร้อยละ 6.28) เนื้อสัตว์สำหรับบริโภค (ร้อยละ 4.09) และข้าวสาลีและเมสลิน (ร้อยละ 3.40) ประเทศส่งออกหลัก คือ จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ สหรัฐอเมริกา และสิงคโปร์ สำหรับประเทศไทยเป็นคู่ค้าอันดับที่ 13 (น้ำมันปิโตรเลียมดิบ ทองคำยังไม่ได้ขึ้นรูป อะลูมิเนียมที่ยังไม่ได้ขึ้นรูป ทองแดงบริสุทธิ์ และข้าวสาลีและเมสลิน)
สำหรับการนำเข้าสินค้าของออสเตรเลียในเดือนมีนาคม 2567 มีมูลค่า 23,021 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (หดตัวร้อยละ 0.58) โดยเป็นการนำเข้ารถยนต์สำหรับขนส่งบุคคลและขนส่งของ (ร้อยละ 15.45) น้ำมันปิโตรเลียมที่ได้จากแร่ บิทูมินัส (ดีเซล) (ร้อยละ 14.66) เครื่องคอมพิวเตอร์ขนาดพกพา (ร้อยละ 14.56) เครื่องโทรศัพท์สำหรับเครือข่ายเซลลูลาร์หรือสำหรับเครือข่ายไร้สายอื่นๆ (ร้อยละ 9.89) ยารักษาหรือป้องกันโรค (ร้อยละ 4.54) ประเทศคู่ค้าสำคัญ คือ จีน สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น เกาหลีใต้และไทย ซึ่งในเดือนมีนาคม 2567 ออสเตรเลียได้ดุลการค้าที่ 6,452 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ไทยเป็นคู่ค้าอันดับที่ 5 (รถยนต์ เครื่องปรับอากาศ เครื่องจักรสำหรับการรับการเปลี่ยนและการส่ง หรือการสร้างเสียง ภาพหรือข้อมูลอื่นๆ ยางรถยนต์ใหม่และกระสอบและถุง (รวมถึงกรวย))
2. สรุปสถานการณ์การค้าไทย-ออสเตรเลีย [2]
เป้าหมายส่งออก | มูลค่าการค้ารวม (ล้าน US$) | มูลค่าการส่งออก (ล้าน US$) | มูลค่าการนำเข้า (ล้าน US$) | |||||||
ปี 2023
(%) |
ปี 2024
(%) |
ปี 2023 | ปี 2024 | ปี 2023 | ปี 2024 | ปี 2023 | ปี 2024 | |||
ม.ค.-มี.ค. | +/- (%) | ม.ค.-มี.ค. | +/- (%) | ม.ค.-มี.ค. | +/- (%) | |||||
2.0
(8.21) |
1.0 | 18, 979.28
(3.62) |
4,928.27 | 7.88 | 12,106.0 (8.21) | 3,276.55 | 24.80 | 6,873.28
(-3.58) |
1,651.72 | -14.99 |
[1] Source: Global Trade Atlas
[2] Source: ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ โดยความร่วมมือจากกรมศุลกากร
オーストラリア
- สถิติการส่งออกหลักของไทยไปตลาดออสเตรเลีย (รายเดือน)สถิติการนำเข้าหลักของไทยจากตลาดออสเตรเลีย (รายเดือน)
- การส่งออกสินค้าไทยไปออสเตรเลียเดือนมีนาคม ปี 2567 มีมูลค่า 1,083.7 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (40,096.9 ล้านบาท) เพิ่มขึ้นร้อยละ 15.35 เป็นการเพิ่มขึ้นของสินค้ารถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องปรับอากาศ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบของเครื่องจักรเหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ อาหารทะเลกระป๋องและตู้เย็น ตู้แช่แข็งและส่วนประกอบ แต่การส่งออกผลิตภัณฑ์ยาง เม็ดพลาสติก และเครื่องสำอาง สบู่และผลิตภัณฑ์รักษาผิว ลดลง
- การนำเข้าสินค้าของไทยจากออสเตรเลียเดือนมีนาคม ปี 2567 มีมูลค่า 614 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (22,718 ล้านบาท) เพิ่มขึ้นร้อยละ01 เป็นการเพิ่มขึ้นของการนำเข้าสินค้าน้ำมันดิบ เครื่องเพชรพลอย อัญมณี เนื้อสัตว์สำหรับการบริโภค นมและผลิตภัณฑ์นมและเคมีภัณฑ์ แต่การนำเข้าก๊าซธรรมชาติ สินแร่โลหะอื่นๆ ถ่านหิน พืชและผลิตภัณฑ์จากพืช และเหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ลดลง