การส่งออกของอินเดียโดยรวม (สินค้าและบริการ) ในเดือนพฤษภาคม 2567 มีมูลค่า 68.29 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัว 10.25% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ส่วนการนำเข้า มีมูลค่า 79.20 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัว 7.95% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า
.
การส่งออกรวมภาคสินค้าและบริการของอินเดียสะสมระหว่างเมษายน – พฤษภาคม 2567 มีมูลค่า 133.61 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัว 9.21% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ส่วนการนำเข้าสะสมระหว่างเมษายน – พฤษภาคม 2567 มีมูลค่า 149.92 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัว 9.93% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า
.
1. การค้าสินค้า
การส่งออก เดือนพฤษภาคม 2567 มีมูลค่า 38.13 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ มากกว่าช่วงเดือนเดียวกันของปีก่อนที่ระดับ 34.95 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หากหักสินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมันและ อัญมณีและเครื่องประดับมีมูลค่า 28.60 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ มากกว่าช่วงเดือนเดียวกันของปีก่อนที่ระดับ 26.27 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ สินค้าส่งออกที่ขยายตัวอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับช่วงเดือนกันของปีก่อนหน้า ได้แก่ กาแฟ ยาสูบเครื่องใช้ไฟฟ้า เนื้อสัตว์ ผักและผลไม้ ตามลำดับ
.
ประเทศที่อินเดียมีมูลค่าการส่งออกสินค้าเพิ่มขึ้นในเดือนพฤษภาคม 2567 เทียบกับปีที่ผ่านมามากที่สุด 5 ลำดับแรก ได้แก่ สหรัฐอเมริกา (13.06%), เนเธอร์แลนด์ (43.92%), สหรัฐอาหรับเอมิเรต (19.43%), มาเลเซีย (86.95%) และสหราชอาณาจักร (33.54%)
.
ขณะที่ภาพรวมการส่งออกสินค้า 2 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2024 (เมษายน – พฤษภาคม 2567) มีมูลค่า 73.12 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ มากกว่าช่วงเดือนเดียวกันของปีก่อน ที่ระดับ 69.57 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หากหักสินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมันและอัญมณีและเครื่องประดับแล้วมีมูลค่า 54.71 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ มากกว่าช่วงเดือนเดียวกันของปีก่อน ที่ระดับ 52.05 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ
.
การนำเข้า เดือนพฤษภาคม 2567 มีมูลค่า 61.91 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ มากกว่าช่วงเดือนเดียวกันของปีก่อนที่ระดับ 57.48 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หากหักสินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมันและอัญมณีและเครื่องประดับแล้วมีมูลค่า 36.59 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ มากกว่าช่วงเดือนเดียวกันของปีก่อนที่ระดับ 36.31 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ สินค้านำเข้าที่หดตัวอย่างมีนัยสำคัญ ได้แก่ สินค้าด้านวิศวกรรม ถ่านหิน ฝ้ายดิบและผลิตภัณฑ์จากฝ้าย เหล็กและกำมะถัน ปุ๋ยและวัตถุดิบผลิตปุ๋ย ตามลำดับ
.
ประเทศที่อินเดียมีมูลค่าการนำเข้าสินค้าเพิ่มขึ้นในเดือนพฤษภาคม 2567 เทียบกับปีที่ผ่านมามากที่สุด 5 ลำดับแรก ได้แก่ สหรัฐอาหรับเอมิเรต (19.89%) อิรัก (58.68%) รัสเซีย (18.02%) อังโกลา (1274.95%), อินโดนีเซีย (23.36%)
.
ขณะที่ภาพรวมการนำเข้าสินค้า 2 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2024 (เมษายน – พฤษภาคม 2567) มีมูลค่า 116.01 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ มากกว่าช่วงเดือนเดียวกันของปีก่อนที่ระดับ 106.54 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หากหักสินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมันและอัญมณีและเครื่องประดับแล้วมีมูลค่า 69.31 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ มากกว่าช่วงเดือนเดียวกันของปีก่อนที่ระดับ 68.44 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ
.
ดุลการค้าสินค้า เดือนพฤษภาคม 2567 ขาดดุลการค้า 23.78 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ขณะที่ช่วงเดือนเดียวกันของปีก่อนหน้าขาดดุลที่ระดับ 22.53 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ทำให้อินเดียขาดดุลการค้าสินค้าสะสม 2 เดือนแรกมูลค่า 42.89 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งขาดดุลมากขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าที่ระดับ 36.97 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ
.
2. การค้าบริการ*
เดือนพฤษภาคม 2567 การส่งออกบริการมีมูลค่า 30.16 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ มากกว่าช่วงเดือนเดียวกันของปีก่อนที่ระดับ 26.99 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ การนำเข้า มีมูลค่า 17.28 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ มากกว่าช่วงเดือนเดียวกันของปีก่อนที่ระดับ 15.88 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ดุลการค้า เกินดุลมูลค่า 12.88 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ มากกว่าช่วงเดือนเดียวกันของปีก่อน ที่ระดับ 11.11 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ
.
ภาพรวมการบริการ 2 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2024 (เมษายน – พฤษภาคม 2567) มีมูลค่าเกินดุล 26.58 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ มากกว่าช่วงเดือนเดียวกันของปีก่อนหน้าที่ระดับ 22.93 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ
.
ข้อคิดเห็น
1. เดือนพฤษภาคม 2567 อินเดียขาดดุลการค้าสินค้าที่ระดับ 23.78 พันล้านเหรียญสหรัฐ มากที่สุดในรอบ 7 เดือน โดยมูลค่าการนำเข้าที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเป็นปัจจัยสนับสนุน อาทิ ผลิตภัณฑ์จากปิโตรเลียม อุปกรณ์ด้านการขนส่ง เงิน และน้ำมันพืชสำหรับบริโภค เป็นต้น สำหรับการส่งออกมีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้นจากเดือนก่อนหน้าโดยมาอยู่ที่ระดับ 38.13 พันล้านเหรียญสหรัฐ และสูงกว่าช่วงเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว โดยมีสัญญาณเชิงบวกสำหรับการส่งออกเนื่องจากภาวะเงินเฟ้อในหลายประเทศที่พัฒนาแล้วได้ผ่อนคลายลง ทำให้คาดการณ์ว่าจะมีความต้องการสินค้าอินเดียจากหลายประเทศมากขึ้น ทั้งนี้ สินค้าที่ขับเคลื่อนมูลค่าส่งออกอินเดียในเดือนนี้ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม สินค้าวิศวกรรม สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ยาและเภสัชกรรม สิ่งทอ
.
2. ภาคการผลิตของอินเดียเติบโตน้อยที่สุดในรอบ 3 เดือนเนื่องจากสภาวะอากาศที่ร้อนจัดขัดขวางกิจกรรมด้านการผลิตในหลายภาคส่วนทำให้ผลผลิตน้อยลง รวมถึงการเลือกตั้งที่เกิดขึ้นทำให้ผู้ผลิตชะลอการดำเนินงานเพื่อรอดูความชัดเจน ทั้งนี้ ดัชนีการจัดซื้อ(Purchasing Managers’ Index : PMI) อยู่ที่ระดับ 57.5 ในเดือนนี้ ลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ระดับ 58.8 อย่างไรก็ตาม ภาคการผลิตอินเดียคาดว่าจะขยายตัวอย่างมั่นคงในช่วงกลางไตรมาสแรกของปีงบประมาณ เนื่องจากได้รับการสนับสนุนจากการเพิ่มขึ้นของธุรกิจใหม่ๆ อุปสงค์ในตลาดที่มีมาต่อเนื่อง และสภาพเศรษฐกิจที่เอื้ออำนวย ขณะเดียวกันสำหรับด้านการส่งออก มีคำสั่งซื้อใหม่เข้ามาในเดือนพฤษภาคมจำนวนมากและเป็นการฟื้นตัวที่แข็งแรงที่สุดในรอบ 13 ปี โดยเห็นได้จากการสั่งซื้อสินค้าจากหลายประเทศในแอฟริกา เอเชีย อเมริกา ยุโรป และตะวันออกกลาง
.
3. องค์การสหประชาชาติ (UN) ได้ปรับประมาณการการเติบโตเศรษฐกิจของอินเดียในปี 2024 เพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ 6.9% จากเดิมที่ประมาณไว้ที่ 6.2% ในเดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยได้แรงหนุนจากการลงทุนภาครัฐที่แข็งแกร่งและการบริโภคภาคเอกชนที่ฟื้นตัว แม้ว่าอุปสงค์จากต่างประเทศจะลดลงก็ตาม ส่งผลให้อินเดียยังคงเป็นตลาดที่น่าสนใจทั้งในแง่ของการเข้ามาลงทุนรวมถึงอุปสงค์ที่แข็งแกร่งทั้งในส่วนของภาคอุตสาหกรรมและภาคการบริโภคภายในประเทศ
****************
海外事務所と
ณ กรุงนิวเดลี
.
*หมายเหตุ: จากข้อมูลล่าสุดของธนาคารกลางอินเดีย ข้อมูลภาคบริการเปิดเผยถึงเดือนเมษายน 2567 ในส่วนของข้อมูลของเดือนพฤษภาคม 2567 เป็นเพียงการประมาณการ ซึ่งอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงในการเปิดเผยข้อมูลครั้งต่อไป
ข้อมูลอ้างอิง:
– Ministry of Commerce and Industry, 14 Jun 2024, Latest Trade Figures
– Mint, 14 Jun 2024, India’s May merchandise trade deficit widens to $23.8 billion, a seven-month high
– Business Standard, 3 Jun 2024, Heatwave drags manufacturing growth to three-month low in May
– Business Standard, 17 May 2024, UN revises India’s 2024 economic growth projection upwards to nearly 7%