พฤติกรรมการใช้ที่นอนของชาวจีน และโอกาสที่นอนยางพาราไทยในจีน สคต.คุนหมิง

พฤติกรรมการใช้ที่นอนของชาวจีน และโอกาสที่นอนยางพาราไทยในจีน สคต.คุนหมิง

ปัจจุบันชาวจีนให้ความสำคัญกับการเลือกซื้อที่นอนเป็นอย่างมาก เนื่องจากปัจจุบันคุณภาพชีวิตของชาวจีนที่ดีขึ้น และมีการเผยแพร่แนวคิดการนอนหลับเพื่อสุขภาพที่แพร่หลายอย่างรวดเร็ว ซึ่งชาวจีนมากกว่าร้อยละ 60 นิยมใช้ที่นอนที่ค่อนข้างแข็ง อย่างไรก็ดี นอกจากการนอนเตียงพื้นแข็งอย่างที่แพร่หลายในประเทศจีนแล้ว ยังมีการใช้ที่นอนยางพารา และเมมโมรีโฟมอีกด้วยพฤติกรรมการใช้ที่นอนของชาวจีน และโอกาสที่นอนยางพาราไทยในจีน สคต.คุนหมิง

พฤติกรรมการใช้ที่นอนของชาวจีน และโอกาสที่นอนยางพาราไทยในจีน สคต.คุนหมิง

1.พฤติกรรมการนอนหลับของชาวจีน

iiMedia Research เผยว่า ชาวจีนส่วนใหญ่นอนหลับประมาณ 6 – 8 ชั่วโมง ซึ่งผู้ที่มีการนอนหลับ 7 – 8 ชั่วโมงคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 43 อีกทั้งชาวจีนมักมีปัญหาด้านการเจ็บป่วยบริเวณหลังและกระดูกสันหลัง เนื่องมาจากการทำงานที่นั่งนานและความเครียด รวมถึงการเร่งรีบของชีวิตคนยุคใหม่และความกดดันใน      การทำงานที่เพิ่มขึ้น

พฤติกรรมการใช้ที่นอนของชาวจีน และโอกาสที่นอนยางพาราไทยในจีน สคต.คุนหมิง

2.สัดส่วนของชาวจีนต่อการเลือกใช้ประเภทที่นอน

ชาวจีนร้อยละ 28.9 เลือกใช้ที่นอนสปริงล้วน ส่วนร้อยละ 23.7 ของชาวจีนนิยมเลือกใช้ที่นอนสปริงผสมวัสดุอื่น ๆ เพื่อทำให้หลับสบาย นอกจากนี้ ชาวจีนร้อยละ 20.5 นิยมเลือกใช้ที่นอนปาล์ม     ร้อยละ 15.7 นิยมนอนที่นอนไม้ ร้อยละ 7.3 เลือกใช้ที่นอนยางพารา ร้อยละ 2.8 เลือกใช้เมมโมรีโฟม และร้อยละ 0.4 เลือกใช้ที่นอนที่ทำจากวัสดุอื่น ๆ

พฤติกรรมการใช้ที่นอนของชาวจีน และโอกาสที่นอนยางพาราไทยในจีน สคต.คุนหมิง

พฤติกรรมการใช้ที่นอนของชาวจีน และโอกาสที่นอนยางพาราไทยในจีน สคต.คุนหมิง

4.ความคาดหวังต่อการเลือกซื้อที่นอนของชาวจีน

จากการสำรวจชาวจีนร้อยละ 47.7 มีความคาดหวังต่อการเลือกซื้อที่นอนว่าจะต้องช่วยส่งเสริมการนอนหลับ ทำให้หลับสบาย ร้อยละ 46.8 คาดหวังในด้านความปลอดภัยของสินค้า ร้อยละ 46.1 คาดหวังว่าจะต้องช่วยรักษาการเจ็บป่วยด้านเอวเป็นสำคัญ ร้อยละ 43.7 คาดหวังว่า ที่นอนจะต้องง่ายต่อการทำความสะอาด ร้อยละ 43.1 คาดหวังว่า ที่นอนจะมีสรรพคุณช่วยป้องกันเชื้อโรคแบคทีเรีย    ร้อยละ 38.8 คาดหวังว่า ที่นอนจะต้องกันน้ำและระบายอากาศได้ดี ร้อยละ 30.8 คาดว่าว่าที่นอนจะสามารถรักษาอุณหภูมิได้ดี และร้อยละ 0.3 ของชาวจีนมีความคาดหวังต่อการเลือกซื้อที่นอนในด้าน    อื่น ๆ

 

พฤติกรรมการใช้ที่นอนของชาวจีน และโอกาสที่นอนยางพาราไทยในจีน สคต.คุนหมิง

6.โอกาสของที่นอนยางพาราไทยในตลาดจีน

          ที่นอนยางพาราเป็นสินค้าไทยที่มีศักยภาพในตลาดจีน ผู้บริโภคชาวจีนนิยมซื้อที่นอนยางพาราแบรนด์ไทยไว้สำหรับใช้เองในครัวเรือนและมอบให้ผู้ใหญ่ในโอกาสสำคัญต่าง ๆ เนื่องจากเป็นสินค้าสุขภาพ มีคุณภาพและความปลอดภัย เนื่องจากผลิตจากน้ำยางธรรมชาติ ทำให้นอนหลับสบายและระบายอากาศได้ดี มีคุณสมบัติต้านเชื้อแบคทีเรีย ป้องกันเชื้อโรค นอกจากนี้ยังช่วยรักษาสุขภาพของ    ชาวจีน ปกป้องคอและกระดูกสันหลังได้ ทำให้หมอนยางพาราของไทยกลายเป็นสินค้าติดตลาดจีนมายาวนาน

6.1 สถิติการนำเข้าที่นอนยางพาราในตลาดจีนจากไทย

          ข้อมูลจาก Global Trade Atlas แสดงให้เห็นว่า ตั้งแต่เดือนมกราคม – เมษายน 2567 มูลค่าการนำเข้าที่นอนยางพาราของไทยเข้าจีนรวมทั้งสิ้น 5.97 ล้านเหรียญสหรัฐ และในปี 2566 มูลค่า       การนำเข้าที่นอนยางพาราของไทยเข้าจีนรวมทั้งสิ้น 20.48 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.24      เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2565พฤติกรรมการใช้ที่นอนของชาวจีน และโอกาสที่นอนยางพาราไทยในจีน สคต.คุนหมิง

พฤติกรรมการใช้ที่นอนของชาวจีน และโอกาสที่นอนยางพาราไทยในจีน สคต.คุนหมิง

ความคิดเห็น สคต.

เนื่องจากคุณภาพชีวิตของชาวจีนที่ดีขึ้น ทำให้มีความตระหนักใส่ใจสุขภาพ และต้องการเลือกซื้อสินค้า/บริการที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายมากขึ้น อย่างเช่นการเลือกซื้อที่นอนที่มีคุณภาพ เหมาะสมกับสรีระร่างกาย ที่นอนยางพาราของไทยเป็นที่นิยมในกลุ่มผู้บริโภคชาวจีนมาอย่างยาวนาน ถึงแม้ว่าในตลาดจีนจะมีการผลิตที่นอนยางพาราแบรนด์ท้องถิ่นของจีนอย่างแพร่หลาย แต่ชาวจีนยังคงมองว่าที่นอนยางพาราของไทยดีกว่า เนื่องมาจากผลิตจากน้ำยางธรรมชาติที่มีคุณภาพสูง ทำให้นอนสบายและสามารถระบายอากาศได้ดี มีความยืดหยุ่นสูง ทำให้รองรับน้ำหนักได้ดี

ปัจจุบันหมอนหรือที่นอนยางพาราของไทยกลายเป็นหนึ่งใน Soft Power ที่เมื่อชาวจีนเดินทางมาท่องเที่ยวในไทยมักจะซื้อกลับไปเป็นของฝากให้ญาติพี่น้อง เพื่อน หรือนำกลับไปใช้เอง ผู้ประกอบการหมอนยางพารา/ที่นอนยางพาราที่ต้องการขยายตลาดในจีน ควรมีการศึกษาตลาด ติดตามพฤติกรรม     การบริโภค และขยายช่องทางการจำหน่ายสินค้า โดยไม่มุ่งเน้นแต่เพียงการจำหน่ายบนช่องทางออฟไลน์อย่างเดียว ควรมีการวางจำหน่ายบนแพลตฟอร์มออนไลน์ หรือการจำหน่ายในรูปแบบ Cross Border     E-Commerce ก็เป็นช่องทางการจำหน่ายที่มีประสิทธิภาพที่จะทำให้ผู้ประกอบการสามารถทดลองตลาดก่อนได้ นอกจากนี้ หากต้องการทำตลาดในระยะยาวก็ควรมีการประชาสัมพันธ์สินค้าผ่านเน็ตไอดอล/ KOL ที่มีชื่อเสียงนั้นจีน เพื่อดึงดูดความสนใจของผู้บริโภคชาวจีน เนื่องจากผู้บริโภคชาวจีนนิยมซื้อสินค้าตามเน็ตไอดอล/ KOL ทำให้บุคคลเหล่านี้มีส่วนช่วยในการผลักดันยอดขายของผู้ประกอบการได้

 

*****************************************

แหล่งที่มา: https://baijiahao.baidu.com/s?id=1793401988123130203&wfr=spider&for=pc

สคต.คุนหมิง

jaJapanese