สรุปอุตสาหกรรม Nordic Tech ปี 2023

แนวโน้มการขยายตัว และการลงทุนในเทคโนโลยีของกลุ่มประเทศนอร์ดิกมีความโดดเด่นในการนำเสนอนวัตกรรมยั่งยืน เทคโนโลยีที่ควบคุมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate tech) เทคโนโลยี AI และนวัตกรรมพื้นฐานดิจิทัล รวมถึงการวิจัย และพัฒนาพลังงานสะอาด ฟินเทค และเทคโนโลยีด้านสุขภาพมีความโดดเด่นตลอดปี 2566 และยังเน้นให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน และมีความรับผิดชอบต่อสังคม ส่งผลให้กลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องได้รับความสนใจจากนักลงทุน
• เดนมาร์ก: เดนมาร์กมีความโดดเด่นด้านเทคโนโลยีเทคโนโลยีชีวภาพ (Biotech) เช่น บริษัท Startup Hemab Therapeutics, NMD Pharma และ IO biotech ได้กลายเป็นผู้นำติดอันดับหนึ่งในสิบอันดับแรกของการลงทุนสตาร์ทอัพในกลุ่มประเทศนอร์ดิก
• ฟินแลนด์: มุ่งเน้นไปที่เทคโนโลยีอุตสาหกรรม (industrial tech) โดยบริษัทนักลงทุนของฟินแลนด์ VC Kvanted ประกาศให้เงินลงทุนกว่า 70 ล้านยูโรในอุตสาหกรรมนี้
• สวีเดน และนอร์เวย์: โดดเด่นด้านเทคโนโลยีสีเขียว แสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้นำในโครงการริเริ่มที่ยั่งยืน เช่น บริษัทผู้ผลิตแบตเตอรี่ในนอร์เวย์ Marrow สามารถระดมทุนได้มากกว่า 118 ล้านยูโรเพื่อก่อสร้างโรงงานผลิตแบตเตอรี่ ตอกย้ำความมุ่งมั่นของกลุ่มประเทศนอร์ดิกในด้านโซลูชั่นการจัดเก็บพลังงาน
• ไอซ์แลนด์: บริษัท Startup ด้านเทคโนโลยีมหาสมุทรของไอซ์แลนด์ Water First ได้รับเงินลงทุนกว่า 90 ล้านยูโรตอกย้ำถึงความหลากหลายในทุกภาคส่วนของเทคโนโลยีที่ควบคุมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในกลุ่มประเทศนอร์ดิก

อย่างไรก็ดี การควบรวมกิจการ (Mergers & Acquisitions) เป็นตัวกำหนดทิศทางอุตสาหกรรมในกลุ่มประเทศนอร์ดิก โดยรวมแล้ว นักลงทุน (VC) มักให้ความสนใจกับบริษัทที่มีเทคโนโลยีที่ควบคุมการเปลี่ยนแปลงด้านสภาพภูมิอากาศ ควบคู่ไปกับความสนใจด้านเทคโนโลยีอุตสาหกรรม (industrial tech) และ Web3

บทวิเคราะห์ผลกระทบต่อไทย ข้อเสนอแนะ โอกาสแนวทางและความคิดเห็น
• คาดการณ์ปี 2567: เมื่อพิจารณาแนวโน้มอุตสาหกรรมเทคโนโลยีกลุ่มประเทศนอร์ดิกในปี 2567 คาดว่าแวดวงเทคโนโลยีจะพัฒนาต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง โดยเน้นที่เทคโนโลยี AI, Data center และโครงการด้านจัดเก็บพลังงาน
•ความท้าทาย:
1. สวัสดิภาพแรงงาน: มีความตึงเครียดระหว่างสภาพแรงงานที่แข็งแกร่งในกลุ่มประเทศนอร์ดิกในด้านสิทธิของพนักงาน โดยคาดว่าในปีหน้าจะมีความเห็นเพิ่มเติมในอุตสาหกรรมระหว่างการสร้างสมดุลย์ระหว่างการสร้างนวัตกรรม กับแนวทางการปฎิบัติแรงงานแบบดั้งเดิม
2.กฎหมาย: กฎหมายในแต่ละประเทศในกลุ่มประเทศนอร์ดิกที่มีการตีความแตกต่างกัน เช่น บริษัท Easee ผู้ให้บริการชาร์จรถไฟฟ้าของนอร์เวย์กำลังเผชิญอุปสรรคทางกฎหมายในตลาดสวีเดน เนื่องจากคณะกรรมการความปลอดภัยด้านไฟฟ้าแห่งชาติของสวีเดน (Swedish National Electrical Safety Board) สั่งห้ามการใช้เครื่องชาร์จดังกล่าว จนนำไปสู่การปรับลดจำนวนพนักงาน และความพยายามการระดมทุนเพื่อป้องกันการล้มละลาย
3. แหล่งเงินทุน: ในปี 2566 ตลาดอุตสาหกรรมเทคโนโลยีกลุ่มประเทศนอร์ดิกยังคงมีความท้าทายด้านเงินลงทุน ปริมาณเงินที่เข้ามาลงทุนในปีนี้ยังคงน้อยกว่าปีก่อนมาก โดยมีเพียงไม่กี่บริษัทเท่านั้นที่ได้รับเงินลงทุนมากกว่า 100 ล้านยูโร
• โอกาส: อุตสาหกรรมสตาร์ทอัพเทคโนโลยีกลุ่มประเทศนอร์ดิกโดดเด่นด้านการเป็นจุดกำเนิดการพัฒนาโซลูชั่นต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น BioTech, FoodTech, FinTech, eCommerce, SaaS, EdTech และ MedTech ซึ่งจากขนาดประชากรในกลุ่มประเทศนอร์ดิกที่น้อยเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆ ในโลก ทำให้บริษัทสตาร์ทอัพกลุ่มประเทศนอร์ดิกมักมองหาลู่ทางการขยายตลาดไปยังตลาดต่างประเทศ ดังนั้น การเข้าร่วมกิจกรรม Startup ในกลุ่มประเทศนอร์ดิก เช่น งาน Slush (กรุงเฮลซิงกิ) หรืองาน TechBBQ (กรุงโคเปนเฮเกน) และ Oslo Innovation Week (กรุงออสโล) จะเป็นโอกาสในการสร้างเครือข่ายเพื่อนำไปสู่ความร่วมมือในด้านต่างๆ โอกาสทางการค้า การลงทุน และการเรียนรู้จากความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีของกลุ่มประเทศนอร์ดิก

jaJapanese