11 ปีมาแล้ว ที่ผู้ค้าปลีกหลายรายทำเครื่องหมายวันศุกร์สุดท้ายของเดือนพฤศจิกายนด้วยตัวหนาในปฏิทิน และด้วยเหตุผลที่ดี พวกเขาตั้งตารอการมาถึงของเทศกาลช้อปปิ้ง Black Friday ซึ่งในปี 2566 นี้ Black Friday ตรงกับวันที่ 24 พฤศจิกายน และน่าจะเป็นอีกครั้งที่สถิติการซื้อขายจะถูกทำลายลง ดังที่เคยเกิดขึ้นในปี 2564 ที่นักช้อปชาวเยอรมันใช้จ่ายประมาณ 4.7 พันล้านยูโรในการช้อปปิ้งออนไลน์เพียงช่วงโปรโมชั่นสองวัน Black Friday และ Cyber Monday ซึ่งเป็นปริมาณที่สูงมาก และในปีถัดมา สถิติยังได้ถูกทำลายลงโดยในปี 2565 มีการใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 20 หรือที่ประมาณ 5.6 พันล้านยูโร และในปี 2566 สมาคมการค้าปลีกเยอรมัน (HDE) คาดว่ายอดการใช้จ่ายจะอยู่ที่ราว 5.8 พันล้านยูโร
ต้นกำเนิดของ Black Friday と Cyber Monday
Black Friday มีต้นกำเนิดในประเทศสหรัฐอเมริกา ที่นั่นมักจะตรงกับวันศุกร์หลังวันขอบคุณพระเจ้าหรือวัน Thanksgiving ซึ่งเป็นช่วงที่การจับจ่ายใช้สอยสำหรับเทศกาลคริสต์มาสตามธรรมเนียมในสหรัฐอเมริกาเริ่มต้นขึ้น ซึ่งพัฒนามาจนถึงปัจจุบันที่กลายเป็นแห่งการลดราคาสินค้าและการช้อปปิ้ง และในขณะที่ห้างสรรพสินค้าและร้านค้าต่าง ๆ มี Black Friday บรรดาร้านค้าหรือแพลตฟอร์มสินค้าออนไลน์ก็มี Cyber Monday ในวันจันทร์หลัง Black Friday โดยเทศกาลช้อปปิ้งสองวันนี้กำลังแพร่หลายไปทั่วยุโรป และยอดขายเติบโตขึ้นทุกปี
Black Friday และเงินเฟ้อ
ข้อสังเกตที่น่าสนใจคือ ในช่วงเวลานี้ที่อัตราเงินเฟ้อกำลังอยู่ในระดับสูงแต่เป็นไปได้อย่างไรที่แม้อัตราเงินเฟ้อซึ่งทำให้กำลังซื้อของหลายๆ คนลดลงอย่างมาก แต่ผู้เชี่ยวชาญกลับคาดว่าจะเกิดผลบวกมหาศาลในช่วงเทศกาลช้อปปิ้งสองวันนี้
เหตุผลประการหนึ่งอาจเป็นเพราะช่วงเวลา ที่เทศกาลการลดราคาเกิดขึ้นเพียงไม่กี่สัปดาห์ก่อนเทศกาลคริสต์มาสและมีธรรมเนียมการรวมตัวของครอบครัวและเครือญาติเพื่อให้ของขวัญแก่กัน สำหรับผู้ค้าปลีก เทศกาลนี้เป็นตัวขับเคลื่อนยอดขายเป็นหลัก จากการสำรวจที่ดำเนินการโดยสถาบันวิจัยการค้าปลีกโคโลญ (IFH) ในนามของสมาคมการค้าปลีกเยอรมัน (HDE) พบว่า ประมาณครึ่งหนึ่งของผู้ตอบแบบสำรวจวางแผนที่จะใช้วันส่งเสริมการขายสองวันนี้สำหรับการช้อปปิ้งในช่วงคริสต์มาส
นาย Tobias Vogel จากคณะเศรษฐศาสตร์และสังคมแห่งมหาวิทยาลัย Witten/Herdecke กล่าวไว้ว่าเทศกาล Black Friday นั้น เป็นโอกาสในการซื้อสินค้าในราคาถูกในช่วงเวลาที่กำลังซื้อลดน้อยลง และสำหรับกลุ่มผู้บริโภคที่ประสบปัญหาเงินเฟ้อนั้น เทศกาล Black Friday นั้น เป็นสิ่งที่พวกเขาพลาดไม่ได้ ในกลุ่มประเทศที่ร่ำรวยในอเมริกาเหนือและยุโรป กลุ่มเป้าหมายของเทศกาล Black Friday มักเป็นกลุ่มผู้บริโภคที่รายได้ปานกลางถึงรายได้น้อย และโปรโมชั่นการลดราคาเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อชนชั้นกลางเป็นหลัก ผู้ซึ่งมีกำลังซื้อสินค้าใหม่ได้ นอกจากนี้ยังส่งผลไปถึงกลุ่มผู้บริโภคที่เห็นถึงประโยชน์ของส่วนลดต่อกระเป๋าสตางค์ของพวกเขา
นอกจากนื้ นาย Vogel ยังได้เสริมอีกว่า บ่อยครั้งที่การลดราคาไม่ได้เป็นการลดราคาที่แท้จริง ผู้ขายมักตั้งราคาอ้างอิงไว้สูงกว่าปกติ และสร้างโปรโมชั่นส่วนลด โดยในที่สุดแล้วราคาที่ขายจริงนั้นกลับที่ไม่ได้แตกต่างจากราคาที่ขายในช่วงเวลาปกติสักเท่าไหร่ แม้ว่าสมาคมคุ้มครองผู้บริโภคยังเคยได้วิพากษ์วิจารณ์ถึงประเด็นนี้หลายครั้งแล้ว และจนถึงขณะนี้ ผู้บริโภคยังคงไม่เห็นความพยายามของภาครัฐที่จะแก้ปัญหาดังกล่าว
ชาวเยอรมันและเทศกาล Black Friday と Cyber Monday
แม้ว่าหลายครั้งที่ Black Friday จะไม่ได้สร้างผลประโยชน์ต่อผู้บริโภคเท่าที่ควร แต่จากสภาวะเงินเฟ้อในปัจจุบัน ทำให้ผู้บริโภคที่มีความอ่อนไหวสูงต่อราคาอย่างชาวเยอรมันต้องวางแผนในการใช้จ่ายอย่างรัดกุมในการซื้อของขวัญให้คนที่รักหรือครอบครัวสำหรับเทศกาลคริสต์มาส ซึ่งสะท้อนให้เห็นได้การสำรวจผ่านช่องทางออนไลน์ของบริษัทผู้ให้บริการข้อมูลยักษ์ใหญ่ของเยอรมนีอย่าง Statista พบว่า 3 อันดับกลุ่มสินค้าที่ชาวเยอรมันซื้อมากที่สุด อันดับหนึ่งคือเสื้อผ้า อันดับสองสินค้าอุปกรณ์อิเล็คทรอนิกส์ต่าง ๆ และอันดับสามคือรองเท้า ส่วน 5 อันดับถัดมาซึ่งมีความนิยมเพียงครึ่งหนึ่งของสามอันดับแรก ได้แก่ เครื่องใช้ในครัวเรือน อุปกรณ์เครื่องประดับ สื่อต่าง ๆ (หนังสือ ภาพยนตร์ ซีดีเพลง) เครื่องสำอางค์ และสุดท้ายคือผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ
ความเปลี่ยนแปลงของระบอบทุนนิยมเยอรมันผ่าน Black Friday
ความสำเร็จของเทศกาล Black Friday สะท้อนให้เห็นถึงพัฒนาการของระบอบทุนนิยม ที่กำลังเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจ จากเยอรมนีที่เคยประสบความสำเร็จจากโมเดลเศรษฐกิจที่มีการบริโภคภายในที่น้อยและพึ่งพาการส่งออกเป็นหลัก วันนี้กลับต้องมาพึ่งพาการบริโภคภายในมากขึ้น นอกจากนี้ความสำเร็จนี้อาจสะท้อนให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างประชากรที่อาจมีการเพิ่มขึ้นของผู้ที่ทำกำลังซื้อน้อย ทำให้ความต้องการบริโภคสินค้าหรือบริการที่ลดราคามีมากขึ้น หรืออาจสะท้อนถึงสภาวะความผิดปกติบางอย่างอย่างภาวะเงินเฟ้อ ที่ลดกำลังซื้อของผู้บริโภค
อีกสาเหตุของความสำเร็จนี้ อาจเป็นอิทธิพลของสื่อสังคมออนไลน์ที่เข้าถึงผู้คนมากขึ้น ทำให้พวกเขารับรู้ถึงการลดราคาและกระตุ้นให้เกิดการใช้จ่าย แม้ว่า Black Friday สำหรับหลาย ๆ คนอาจหมายช่วงเวลาแห่งการประหยัด แต่สำหรับบางคน มันอาจจะหมายถึงเวลาของการซื้อของที่พวกเขาไม่ต้องการ (ที่ต้องซื้อเพราะว่าการกระตุ้นจากการลดราคา) และในที่สุดอาจทำให้บางคนต้องกู้ยืมเงินหรือใช้บัตรเครดิตในการจับจ่ายใช้สอยในช่วง Black Friday นี้ และทำให้กำลังซื้อของพวกเขาลดลงในระยะยาว
ที่มา: www.RND.de และ www.nationalgeographic.de