มาเลเซียเตรียมความพร้อมที่จะเป็นผู้นำอาเซียนในปี 2568 เพื่อสร้างเศรษฐกิจที่มีเสถียรภาพ

ที่มา: สำนักข่าว Malaymail

          ดาตุก เสรี อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย กล่าวว่ามาเลเซียยังคงยืนหยัดและยึดเหนี่ยวความมั่นคงที่จะเผชิญกับความท้าทายต่าง ๆ ทั่วโลก และยังคงมีบทบาทในฐานะผู้นำทางการทูตระดับภูมิภาคผ่านตำแหน่งประธานอาเซียน 2025 แม้ว่าโลกจะเผชิญกับความท้าทายจากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์และภาษีศุลกากรทางการค้า

มาเลเซียเป็นหนึ่งในประเทศแรก ๆ ที่ได้ดำเนินการปกป้องผลประโยชน์ของธุรกิจและอุตสาหกรรม รวมถึงสวัสดิการของประชาชนโดยมาตรการเชิงกลยุทธ์ที่ครอบคลุมผ่านการมีส่วนร่วมของฝ่ายต่าง ๆเพื่อสร้างความมั่นใจให้ประเทศมีเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและสามารถแข่งขันได้

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังคงมีการอธิบายว่า “การประชุมสุดยอดอาเซียนในปีนี้เป็นการประชุมสุดยอดที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของอาเซียน โดยมาเลเซียได้นำประธานที่เป็นผู้นำและแนวหน้าของสามทวีปยักษ์ใหญ่เข้ามาร่วมมือกัน คือ รัฐอ่าวหรือสภาความร่วมมืออ่าว (GCC) จีน และอาเซียน เพื่อสร้างศักยภาพที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจของประชาชนและประเทศ”

“การประชุมสุดยอดอาเซียน และการเป็นเจ้าภาพของลิมาในนิทรรศการทางทะเล การบิน และอวกาศนานาชาติลังกาวี พิสูจน์ให้เห็นว่าจิตวิญญาณของการทำงานเป็นทีมเป็นกุญแจสำคัญต่อการเติมเต็มแรงบันดาลใจ และความทะเยอทะยานของประเทศ”

 

“ความเป็นเลิศของกองทัพมาเลเซียในเกาะลังกาวี ตำรวจหลวงมาเลเซีย (PDRM) และกลไกการทำงานของรัฐบาล รวมถึงภาคเอกชนในปูตราจายาและกัวลาลัมเปอร์นั้นน่าทึ่งเป็นอย่างมาก”

มากไปกว่านี้ เขายังแสดงความมั่นใจว่า Visit Malasia 2026 จะเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาใหม่สำหรับการเติบโตทางเศรษฐกิจและการแพร่กระจายของในโอกาสการจ้างงาน โดยการเพิ่มขึ้นของผลผลิตทางการเกษตรและผลิตภัณฑ์ในท้องถิ่น สินค้าที่ผลิตในมาเลเซีย และความยืดหยุ่นของอุตสาหกรรมในประเทศยังคงเป็นเสาหลักที่เสริมสร้างเศรษฐกิจของประเทศ

สุดท้ายแล้ว เขากล่าวว่า “การสนับสนุนอย่างเต็มที่ของประชาชนสำหรับความคิดริเริ่มนี้แสดงให้เห็นถึงจิตวิญญาณระดับชาติที่สูงและการตระหนักถึงความสำคัญในการพึ่งพาตนเองในช่วงความท้าทายระดับโลกที่ไม่แน่นอน”

บทวิเคราะห์ผลกระทบ

          การที่มาเลเซียประกาศความมั่นคงและบทบาทเชิงรุกในเวทีอาเซียนสะท้อนถึงความตั้งใจที่จะเสริมสร้างภูมิภาคให้เป็นตลาดและฐานการผลิตเดียว ซึ่งเป็นหลักการของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนโดยตรง ที่อาจส่งผลให้ผู้ประกอบการไทยที่มีการส่งออกไปมาเลเซียสามารถวางแผนได้ในระยะยาวมากยิ่งขึ้น และได้รับการสนับสนุนจากนโยบายภูมิภาค โครงการ Visit Malaysia 2026 อาจกระตุ้นการเดินทางข้ามพรมแดนมากขึ้นที่ผู้ประกอบการ เช่น ด้านโรงแรม การขนส่ง ท่องเที่ยว สามารถใช้ประโยชน์ในส่วนนี้ได้มากขึ้น และการพัฒนาสินค้าภายในประเทศที่มีการแข่งขันอย่างจริงจังทำให้ผู้ประกอบการไทยมีแรงจูงใจที่จะสร้างและพัฒนาจุดขายที่แตกต่างเพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐานของมาเลเซีย

ความคิดเห็น สคต.

          สำนักงานฯ มีความเห็นว่า การที่มาเลเซียได้มีการแสดงบทบาทและตอบสนองต่อสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ แสดงให้เห็นถึงจุดยืนของรัฐบาลมาเลเซียที่ไม่ได้เป็นเพียงผู้ตามแต่ยังคงต้องการที่จะเป็นผู้นำในเวทีอาเซียนและระดับโลก ในขณะเดียวกันบทบาทที่เข้มแข็งขึ้นของมาเลเซียเป็นทั้งแรงกดดันและแรงผลักต่อผู้ประกอบการไทยที่จะทบทวนต่อจุดยืนของตน โดยหากไทยสามารถใช้สิ่งเหล่านี้เป็นเครื่องมือในการสร้างโอกาส ความเชื่อมโยง และประโยชน์ทางเศรษฐกิจร่วมกัน ก็สามารถเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ความท้าทายนี้ให้เป็นการเติบโตทางเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพในระยะยาว

 

クアラルンプールの海外貿易促進事務所

jaJapanese