บริษัทผู้ผลิตผลิตภัณฑ์วิปปิ้งครีมเอนกประสงค์ตรา Qimiq จากรัฐซาลสบวร์ก ประเทศออสเตรีย เดินเครื่องนำสินค้าเข้าสู่ตลาดเอเชีย โดยจะทำการผลิตสินค้าที่เกาะแทสมาเนีย ประเทศออสเตรเลีย ซึ่งผลิตภัณฑ์นี้มีรูปแบบเป็นก้อน (Qimiq block) เกิดจากส่วนผสมระหว่างวิปปิ้งครีมและเจลาติน บรรจุในบรรจุภัณฑ์ Tetrapak สามารถนำไปประกอบอาหารได้หลากหลาย อาทิ สอดไส้ขนมเค้ก ซอสต่างๆ น้ำสลัด หรือไส้แซนด์วิช มีกลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ ซูเปอร์มาร์เก็ต เชนโรงแรม โรงพยาบาล ธุรกิจเคเทอริ่ง ไปจนถึงอุตสาหกรรมผลิตอาหาร และเชฟชั้นนำ
ปัจจุบันผลิตภัณฑ์นี้มีวางจำหน่ายและประสบความสำเร็จอย่างมากในประเทศออสเตรีย เยอรมนี และสวิตเซอร์แลนด์ ทั้งในกลุ่มผู้บริโภคองค์กรและผู้บริโภคทั่วไป แผนการขยายตลาดไปยังเอเชียครั้งนี้ใช้เวลากว่าสิบปีในการเสาะหาผู้ผลิตที่สามารถผลิตสินค้าได้ตามที่ต้องการได้ นอกจากแทสมาเนียจะเป็นแหล่งวัตถุดิบคุณภาพสูงแล้วการผลิตสินค้าที่นั่นยังทำให้การส่งออกไปยังภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคมีประสิทธิภาพมากกว่าการส่งออกตรงไปจากยุโรป ทั้งในแง่ของต้นทุนการขนส่ง คาร์บอนฟุตปรินท์ และประโยชน์จากข้อตกลงทางการค้าระหว่างประเทศออสเตรเลียกับประเทศต่างๆ ในภูมิภาคดังกล่าว อย่างไรก็ดี สินค้าที่วางจำหน่ายในประเทศจีน ซึ่งปัจจุบันเป็นตลาดหลักของ Qimiq ในทวีปเอเชีย จะยังคงมีการส่งออกตรงไปจากออสเตรีย เนื่องจากข้อจำกัดทางการขนส่งสินค้าระหว่างจีนและออสเตรเลียในปัจจุบัน
ปัจจุบันยอดขายร้อยละ 50 ของ Qimiq มาจากตลาดยุโรป ร้อยละ 25 มาจากตลาดสหรัฐอเมริกา (B2B เท่านั้น) และร้อยละ 25 มาจากตลาดเอเชีย ผลิตภัณฑ์ Qimiq “Made in Australia” มีปลายทางส่งออกที่สำคัญ อาทิ สิงคโปร์ ไทย ไต้หวัน และตะวันออกกลาง สอดคล้องกับแผนการขยายตลาดครั้งใหญ่ในภูมิภาคเอเชีย รวมถึงกำลังเตรียมการผลิตให้กับลูกค้ารายใหญ่หนึ่งรายในเอเชียอีกด้วย แต่ไม่มีแผนขยายตลาดในสหรัฐอเมริกา เนื่องจากพฤติกรรมของผู้บริโภคยังไม่เอื้ออำนวย นอกจากนี้ ยังมีแผนการขยายตลาดไปยังแอฟริกาใต้ โดยจะใช้สเปนเป็นฐานการส่งออก และกำลังอยู่ระหว่างการพัฒนาสินค้าวีแกน ซึ่งปราศจากส่วนประกอบของนม เพื่อตอบสนอง เทรนด์การบริโภคที่กำลังเติบโตในปัจจุบันและอนาคต
ข้อเสนอแนะและความคิดเห็นสำนักงานฯ
นอกเหนือจากตัวสินค้าแล้วปัจจัยอื่นๆ ในการค้าระหว่างประเทศที่ทวีความสำคัญขึ้นในปัจจุบัน ได้แก่ อุปสรรคทางการค้าในรูปแบบของภาษีและกฎระเบียบด้านมาตรฐานสินค้าในตลาดท้องถิ่น ต้นทุนในการขนส่ง และโดยเฉพาะอย่างยิ่งคาร์บอนฟุตปรินท์ที่เกิดขึ้นตลอดกระบวนการตั้งแต่ต้นกำเนิดของสินค้าจนมาถึงมือของผู้บริโภค การหันมาผลิตสินค้าในพื้นที่ใกล้เคียงตลาดมากขึ้น ซึ่งยังสามารถรักษาคุณภาพสินค้าไว้ได้ และลดอุปสรรรคทางการค้าต่างๆ จึงเป็นทางเลือกที่ควรพิจารณา
Office of Commercial Affairs, Royal Thai Embassy (Thai Trade Center) - Vienna