Siemens Energy ยึดมั่นในธุรกิจพลังงานลมบนบก

บริษัท Siemens Energy หาทางลดภาวะขาดทุนของบริษัทลูก Gamesa ด้วยการปรับเปลี่ยนโครงสร้างผู้บริหารเพื่อที่บริษัทฯ จะยังสามารถแข่งขันในด้านธุรกิจพลังงานลมและพัฒนาคุณภาพกังหันให้แข่งขันได้ต่อไป บริษัทฯ จะลดขอบเขตการบริการให้เหลือเพียงแค่พื้นที่ที่สามารถดูแลได้ ซึ่งการปรับเปลี่ยนในครั้งนี้จะทำให้บริษัท Siemens Gamesa สามารถมีกำไรได้เสียที หลังจากมีข่าวออกมาว่า จะมีการปรับโครงสร้างในบริษัทฯ ราคาหุ้นเพิ่มขึ้นถึง 10% หรือไปแตะที่ 22 ยูโร/หุ้น (ตอนช่วงวิกฤต ราคาหุ้นตัวนี้ต่ำกว่า 7 ยูโร) ซึ่งนับเป็นข่าวดีของบริษัทฯ มาก ทั้งนี้ บริษัทฯ จะปรับเปลี่ยนผู้บริหาร โดยให้ นาย Vinod Philip เป็นหนึ่งในบอร์ดบริหารของ Siemens Energy เข้ามาแทนที่นาย Jochen Eickholt (อายุ 62 ปี) ในเดือนสิงหาคมปีนี้

โดยในตลาดการเงินการลงทุนนั้นรอมานานแล้วให้มีการเปลี่ยนแปลงในบริษัทฯ สักที เนื่องจากวิกฤต Gamesa ในปี 2023 ที่ผ่านมา Siemens Energy ในฐานะหนึ่งในบริษัทตัวชี้วัดอัตราดัชนีหุ้นเยอรมัน (DAX) เองก็ได้ขาดทุนไปมากถึง 4.6 พันล้านยูโร นอกจากนี้ หนึ่งในเหตุผลที่ทำให้บริษัทฯ สูญเสียเงินมหาศาลก็คือ กังหันจำนวนมากที่ชำรุดบ่อย โดยบริษัทฯ ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงานลมบนบกแจ้งว่า มีแผนตรวจสอบสาเหตุที่กังหันลมที่มีอยู่ทำงานไม่เต็มประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ยังมีกังหันอีกหลายเครื่องที่แสดงอาการผิดปกติที่อาจนำไปซึ่งภัยอันตรายได้อีกด้วย จากเหตุนี้เองทำให้ Gamesa ชะลอการจำหน่ายกังหันลม ส่งผลให้มีการเสียยอดจำหน่ายเป็นมูลค่าหลายพันล้านยูโร โดยบริษัทฯ กำลังมองหาทางออกจากธุรกิจดังกล่าวและเคยคิดที่จะขยายบริษัทลูกออกไปเลยทีเดียว นาย Christian Bruch ประธานกรรมการของ Siemens แจ้งอีกว่า “ธุรกิจลมบนบกนั้นเป็นธุรกิจที่น่าจับจ้องหากไม่มีปัญหา” โดยตลาดดังกล่าวขนาดไม่รวมประเทศจีนก็มีแนวโน้มที่จะขยายตัวถึง 8% แผนของ Siemens Gamesa ในปัจจุบันคือ ทำอย่างไรก็ได้ให้ภายในปี 2026 บริษัท ฯกลับมามีกำไรอีกครั้ง และจุดประสงค์ในระยะยาวคือ ต้องการทำให้บริษัทมีกำไรเป็นตัวเลขสองหลักให้ได้ กลุ่มธุรกิจพลังงานก็ต่างแจ้งว่า ธุรกิจลมบกสามารถทำกำไรให้ได้มากเท่าธุรกิจพลังงานอื่น ๆ ถึงจะมีเหตุผลให้น่าลงทุน

ผู้เชี่ยวชาญต่าง ๆ ก็คิดว่า การเปลี่ยนผู้บริหาร Gamesa โดยให้นาย Philip มาแทนที่นาย Eickholt นั้นเป็นเรื่องที่น่ายินดี ก่อนที่นาย Eickholt จะลาตำแหน่งผู้บริหารคนนี้ถึงกับต้องอึ้งในปัญหาที่มีอยู่กับกังหันรุ่น 5.X โดยเป็นกังหันรุ่นที่ถูกออกแบบมาก่อนที่เขาจะเข้าประจำตำแหน่ง โดยเขาเห็นว่า การที่จะแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพไม่ช้าก็เร็วบริษัทก็ต้องเปลี่ยนผู้บริหารที่มีความเชี่ยวชาญด้านดังกล่าว ในอนาคต Siemens Gamesa ต้องเลือกที่จะลงทุนในตลาดที่มีกำไรอย่าง ธุรกิจพลังงานลมบก ตลาดและสินค้าที่มีศักยภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดเยอรมนีและสหรัฐอเมริกา โดยวงในกล่าวว่า “บริษัทจะให้ความสนใจกับตลาดภูมิภาคอื่นก็ต่อเมื่อ ตลาดดังกล่าวมีความคุ้มค่าพอที่จะลงทุน” ในด้านธุรกิจพลังงานลมทะเลจะขยายกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นในโรงงานในเมือง Cuxhaven, Aaalborg, และเมือง Le Havre ส่วนฝ่ายพลังงานลมบกมีความเป็นไปได้ว่าจะลดอัตราการจ้างงานลงและไปเพิ่มการจ้างในธุรกิจพลังงานลมทะเลที่ทำกำไรได้มากกว่าแทน ผู้บริหาร Siemens Energy นาย Bruch แจ้งว่า นาย Eickholt ได้วางรากฐานไว้ดีแล้ว คนที่มารับตำแหน่งแทนอย่าง นาย Philip เองก็มีประวัติหลายอย่างเช่น เคยบริหารภาคธุรกิจโรงไฟฟ้าที่ Siemens Energy มาแล้ว และยังคงดำรงตำแหน่งเป็น CTO รวมถึงเป็นหนึ่งในบอร์ดบริหารที่มีหน้าที่รับผิดชอบ “Global Functions” ที่ครอบคลุมทั้งด้าน IT และ Procurement อีกด้วย จึงทำให้ฝ่ายบริหารของ Siemens ไว้ใจที่จะฝาก Gamesa ให้เขาดูแล งานใหม่ของเขาครั้งนี้เรียกได้เลยว่าเป็นงานช้าง เพราะ Siemens Gamesa นั้นขาดทุนมาหลายปีซ้อนแล้ว

อีกทั้งกลุ่มธุรกิจนี้ยังอยู่ในสภาวะตกต่ำ และถึงแม้ว่าจะมีความต้องการของกังหันลมในตลาดสูงเอง ก็ไม่ได้แปลว่ากำไรที่ได้รับนั้นสูงแต่อย่างใด เนื่องจากช่วงนี้หลายประเทศติดระบบการประมูลที่ผู้ประมูลต่ำที่สุดจะได้รับสัมปทานไปทำให้ผู้ผลิตมอเตอร์กังหันลมในยุโรปจำนวนมากต้องประกาศล้มละลายตาม ๆ กันไป ปัจจุบันทางฝั่งคู่แข่งอย่างบริษัทจากจีนทำให้ราคากังหันลมผลิตไฟฟ้าทั่วโลกตกลงมาอย่างเห็นได้ชัด อีกทั้งพวกเขายังคงพยายามเจาะตลาดยุโรปอีกด้วย จึงทำให้ Siemens นั้นพบเจอกับปัญหารายล้อม ทั้งภายนอกและภายใน โดย Siemens Gamesa เองก็ต้องหยุดการจำหน่ายของกังหันลมเนื่องจากประสบปัญหาด้านเทคนิค ทำให้ธนาคารต่าง ๆ ก็เริ่มหวาดระแวงในตัว Siemens Gamesa (ว่าจะสามารถชำระเงินคืนได้หรือไม่) ทำให้ Siemens Gamesa ต้องไปขอการรองรับจากรัฐบาลเป็นจำนวนเงินหลักพันล้านยูโร เพื่อให้บริษัทมีความคล่องตัวทางการเงิน ด้วยการนี้ทำให้สภาวะการเงินในบริษัทคล่องตัวอีกครั้ง และในช่วงไตรมาสแรกของปี 2023/2024 บริษัทก็กลัยมาสามารถทำกำไรได้อีกครั้ง ในไตรมาสถัดมาบริษัททำธุรกิจได้ดีกว่าที่คาดหวังไว้โดยกำไรนั้นขนาดตัวขึ้นกว่า 4% อยู่ถึง 8.3 พันล้านยูโร กำไรสุทธิมีมูลค่าอยู่ที่ 108 ล้านยูโร ซึ่งนับว่าแตกต่างกันมากกับช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อนหน้า (ขาดทุน 189 ล้านยูโร) Siemens Gamesa ได้ทำการลดมูลค่าความเสียหายในการทำธุรกิจ (Operating Loss) ไปได้มากกว่า 365 ร้อยล้านยูโร แต่ในขณะเดียวกัน มูลค่าการจำหน่ายเองก็ลดไปถึง 5% หรือ ลงมาเหลือ 2.3 พันล้านยูโร อย่างไรก็ตาม เราจะเห็นได้ว่ามีการเติบโตอย่างเห็นได้ชัด ทางด้านบริษัทเองก็วิเคราะห์ว่า สถานการณ์จะดีขึ้น และ คาดการณ์ว่าผลประกอบการจะมีการขยายตัวประมาณ 10% ถึง 12% ซึ่งที่ผ่านมาก็สูงขึ้นมา 3% ถึง 7% เปอร์เซ็นต์แล้ว และ จะมีกำไรหลักหักภาษีแล้วสูงกว่าพันล้านยูโร นับว่าจุดมุ่งหมายครั้งใหม่นี้ไม่ได้ไกลกว่าเอื้อมเลยสำหรับ Siemens Gamesa

จาก Handelsblatt 7 มิถุนายน 2567