(ที่มา : สำนักข่าว The Korea Herald ฉบับวันที่ 30 สิงหาคม 2566)
เกาหลีใต้ กำลังเกิดประเด็นถกเถียงเกี่ยวกับน้ำที่ถูกปล่อยจากโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ในจังหวัดฟุกุชิมะของประเทศญี่ปุ่น โดยพรรคประชาธิปไตยแห่งเกาหลี ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านของเกาหลีใต้กล่าวว่า น้ำจากโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ดังกล่าวคือขยะนิวเคลียร์ ในขณะที่พรรคพลังประชาชน ซึ่งเป็นพรรครัฐบาล รวมถึงทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (IAEA) ได้เรียกน้ำดังกล่าวว่า น้ำเสียที่ผ่านการบำบัดแล้ว
เมื่อวันพุธที่ 30 สิงหาคม 2566 พรรคพลังประชาชนได้กล่าวว่า น้ำเสียจากฟุกุชิมะ ที่ยังเหลือกัมมันตภาพรังสีปนเปื้อนอยู่เล็กน้อย แต่ได้รับการบำบัดและทำให้สารกัมมันตภาพรังสีเจือจางลง ก่อนที่จะถูกปล่อยลงมหาสมุทรแล้ว และมีความจำเป็นที่จะต้องเรียกชื่อน้ำดังกล่าวให้ถูกต้อง
ในข้อเสนอของพรรครัฐบาล นายกรัฐมนตรี ฮัน ด๊อกซู กล่าวว่า รัฐบาลควรพิจารณาอย่างจริงจังในการใช้คำเรียกน้ำที่ถูกปล่อยออกมาให้ชัดเจนว่าเป็น “น้ำเสียที่ผ่านการบำบัดแล้ว” ซึ่งจะชัดเจนกว่าการเรียกว่า “น้ำเสีย” เพียงอย่างเดียว นอกจากนี้ นายยู ซังบอม ผู้แทนหัวหน้าโฆษกพรรครัฐบาล ได้กล่าวหาพรรคประชาธิปไตยแห่งเกาหลีว่า มีความพยายามที่จะปลุกปั่น และสร้างความหวาดกลัวให้แก่สาธารณชน โดยพูดเกินจริงเกี่ยวกับอันตรายจากน้ำปนเปื้อนที่ถูกปล่อยลงทะเล ซึ่งความจริงน้ำเสียที่ถูกปล่อยออกมาดังกล่าวได้รับการบำบัดและกำจัดสารปนเปื้อนแล้ว นอกจากนี้ คำว่า “น้ำเสียที่ได้รับการบำบัดแล้ว” ยังเป็นคำทางการที่ ทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (International Atomic Energy Agency—IAEA) ใช้กล่าวถึงในรายงานทางการเช่นกัน
ในขณะเดียวกัน พรรคประชาธิปไตยแห่งเกาหลี ซึ่งมีแนวคิดไม่ประนีประนอมกับญี่ปุ่น และมีทัศนคติเชิงลบต่อพลังงานนิวเคลียร์ ยังคงยืนกรานที่จะเรียกน้ำที่ถูกปล่อยออกมาจากโรงงานฟุกุชิมะว่า “ขยะนิวเคลียร์” หรือ “น้ำเสียที่ปนเปื้อนกัมมันตภาพรังสี” โดยผู้นำฝ่ายค้าน นายลี แจมยอง ได้ปรากฏตัวต่อสาธารณะหลายครั้ง และเรียกการปล่อยน้ำดังกล่าวว่าเป็นการกระทำเพื่อก่อการร้ายนิวเคลียร์ และอ้างว่า การที่ฝ่ายบริหารของประธานาธิบดียุน ซอกยอน มีความพยายามใกล้ชิดกับญี่ปุ่นนั้น เป็นการสมรู้ร่วมคิด
ปัจจุบัน พรรคประชาธิปไตยแห่งเกาหลีได้มีแผนที่จะจัดชุมนุม และดำเนินการอื่นๆ เพื่อประณามการปล่อยน้ำจากฟุกุชิมะของรัฐบาลญี่ปุ่น รวมถึงนโยบายของรัฐบาลยุน ซอกยอน ที่เกี่ยวกับญี่ปุ่น ซึ่งนอกจากการประท้วงโดยการเยือนไปยังสถานทูตญี่ปุ่นในกรุงโซลแล้ว พรรคฝ่ายค้านยังกล่าวอีกว่าจะยื่นคำร้องต่อคณะสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เกี่ยวกับความอันตรายของน้ำที่ถูกปล่อยออกมา ซึ่งจะส่งผลต่อสุขภาพของประชาชน และสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
Office of Commercial Affairs, Royal Thai Embassy (Thai Trade Center) - Seoul พิจารณาแล้วเห็นว่า จากประเด็นการปล่อยน้ำเสียจาก
ฟุกุชิมะ ที่มีกระแสคัดค้านในเกาหลีใต้อย่างต่อเนื่อง และมีแนวโน้มที่จะยืดเยื้อต่อไป เนื่องจากมีนักวิทยาศาสตร์และหน่วยงานระดับโลกหลายแห่งยังคงถกเถียงเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวอยู่ เช่น กลุ่มกรีนพีชที่มองว่าการปล่อยน้ำจากฟุกุชิมะจะส่งผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิต และยังส่งผลกระทบในเชิงลึกระดับโครงสร้าง เช่น ดีเอ็นเอ กระแสความกังวลดังกล่าว ได้ส่งผลให้ผู้บริโภคชาวเกาหลีใต้เกิดความวิตกกังวลในการบริโภคอาหารทะเลจากญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ รวมถึงทะเลใกล้เคียง
จากประเด็นดังกล่าว อาจส่งผลให้พฤติกรรมการบริโภคเปลี่ยนแปลงไป เช่น ผู้บริโภคเกาหลีจะมองหาสินค้าอาหารทะเลจากประเทศอื่นที่ห่างไกลจากทะเลญี่ปุ่นและทะเลเกาหลี ซึ่งเป็นโอกาสของผู้ส่งออกสินค้าอาหารทะเลของไทยจะได้เร่งรุกตลาดเกาหลี รวมถึงเป็นโอกาสของสินค้าใหม่ๆ เช่น plant-based meat รสชาติอาหารทะเล ที่จะตอบโจทย์ความกังวลของผู้บริโภคดังกล่าว โดยมีรสชาติที่อร่อยและคุณค่าทางอาหารครบถ้วน เป็นโอกาสในการบุกตลาดเกาหลีใต้เพิ่มขึ้น
********************************************************************
Office of Commercial Affairs, Royal Thai Embassy (Thai Trade Center) - Seoul
จัดทำโดย นางสาวศีดา สมานมิตร
ตรวจทานโดย นางสาวชนัญญา พรรณรักษา
ผอ. สคต. ณ กรุงโซล