สภาพสงครามที่เริ่มลดระดับความรุนแรงลง ทำให้รัฐบาลยูเครนสามารถเร่งขยายโครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจในประเทศ โดยสร้างความร่วมมือระหว่างยูเครนกับประเทศพันธมิตรในระดับทวิภาคีมากยิ่งขึ้น รวมถึงการเพิ่มมาตรการในการสนับสนุนผู้ประกอบการ นักธุรกิจและนักลงทุนภายในประเทศ เพื่อสร้างโอกาสทางการค้าในภาคเศรษฐกิจต่างๆ เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ นักลงทุนและผู้ประกอบการต่างประเทศต่างช่วยกันศึกษานโยบายการส่งเสริมภาคธุรกิจของรัฐบาลยูเครนเพื่อใช้เป็นแนวทางในการหาช่องทางเพื่อขยายตลาดเข้าสู่ยูเครนในช่วงภาวะสงครามได้เป็นอย่างดี นับเป็นความร่วมมือกันระหว่างชาติพันธมิตรขนาดใหญ่อย่างที่ไม่เคยปรากฎมาก่อนนับตั้งแต่สิ้นสงครามโลกครั้งที่ 2

 

1. ทิศทางและแนวโน้มทางเศรษฐกิจของยูเครน

ในช่วงก่อนภาวะสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของยูเครนในปี 2564 อยู่ที่ร้อยละ 3.4 ขณะที่ภาวะสงครามอย่างเต็มรูปแบบตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2565 ได้ส่งผลให้ภาพรวมทางเศรษฐกิจของยูเครนในปี 2565 มีการปรับตัวลดลงประมาณร้อยละ 31 อย่างไรก็ดี การที่ผู้ประกอบการยูเครนยังคงดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่องและการได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลและประเทศพันธมิตร ได้ส่งผลให้การขยายตัวทางเศรษฐกิจของยูเครนในปี 2566 จะมีแนวโน้มกลับมาเป็นบวกอีกครั้งหนึ่ง ทั้งนี้ The National Bank of Ukraine ได้คาดการณ์ว่า การขยายตัวทางเศรษฐกิจของยูเครนในปี 2566 จะอยู่ที่ประมาณร้อยละ 0.3 และจะขยายตัวเพิ่มขึ้นอีกในปี 2567 ขึ้นไปอยู่ที่ร้อยละ 4.1 หากการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศดำเนินไปตามนโยบายของรัฐบาลแม้ว่าภาวะสงครามจะยังไม่สิ้นสุดก็ตาม

สงครามกับโอกาสทางธุรกิจในยูเครน
แผนภูมิแสดงการคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจของยูเครนระหว่างปี 2564-2567 ที่มา: Ukraine Invest

2. โครงการลงทุนในแผนระยะสั้นของรัฐบาลยูเครน

ในช่วงไตรมาสที่ 3 และไตรมาสที่ 4 ของปี 2565 รัฐบาลยูเครนได้เร่งดำเนินนโยบายการฟื้นฟูประเทศโดยมุ่งเน้นไปที่การฟื้นฟูระบบโครงสร้างพื้นฐานภายในประเทศ และเปิดโอกาสให้กับประเทศพันธมิตรเข้ามาดำเนินการโครงการฟื้นฟูดังกล่าว อย่างไรก็ดี ในช่วงไตรมาสที่ 1 ของปี 2566 รัฐบาลยูเครนได้รับฟังความคิดเห็นจากผู้ประกอบการในประเทศและเริ่มดำเนินนโยบายส่งเสริมการลงทุนและจับคู่ธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการยูเครนและประเทศพันธมิตรในสาขาเศรษฐกิจต่างๆ ซึ่งสาขาเศรษฐกิจที่มีศักยภาพและโครงการลงทุนที่มีแนวโน้มจะเกิดขึ้นภายในปี 2566 นี้ อาทิ เช่น

สงครามกับโอกาสทางธุรกิจในยูเครน
แผนที่ประเทศยูเครนและท่าอากาศยานสำคัญ

2.1 โครงการลงทุนภาคการเกษตร  โครงการลงทุนในภาคการเกษตรที่รัฐบาลยูเครนประกาศหาผู้ลงทุนร่วม ประกอบด้วย 4 โครงการหลัก ได้แก่

  • โครงการ Agro Food Tech Cluster ซึ่งเป็นการก่อสร้างนิคมอุตสาหกรรมด้าน Agro-food ซึ่งกำหนดพื้นที่เป้าหมายใน 3 เมืองหลัก ได้แก่ เมือง Lviv, Ivano-Frankivsk และเมือง Vinnytsia บริเวณภาคตะวันตกของยูเครน จำนวนเงินลงทุนทั้งหมดประมาณ 150 ล้านเหรียญสหรัฐฯ กำหนดระยะเวลาเริ่มดำเนินงานภายใน 4 ปี
  • โครงการ Corn Processing Plant เป็นโครงการก่อสร้างโรงงานแปรรูปสินค้าอาหารจากธัญพืชและข้าวโพดกำลังการผลิตไม่น้อยกว่า 100,000 ตันต่อปี กำหนดพื้นที่เป้าหมาย ณ กรุง Kyiv จำนวนเงินลงทุนทั้งหมดประมาณ 150 ล้านเหรียญสหรัฐฯ กำหนดระยะเวลาเริ่มดำเนินงานภายใน 2 ปี
  • โครงการ Feed Soy Protein Concentrate Plant เป็นโครงการก่อสร้างโรงงานสกัดโปรตีนในภูมิภาค Poltava ทางภาคกลางของยูเครน จำนวนเงินลงทุนทั้งหมดประมาณ 62 ล้านเหรียญสหรัฐฯ กำหนดระยะเวลาเริ่มดำเนินงานภายใน 2 ปี
  • โครงการ Cattle growing and slaughter house โครงการต่อขยายและปรับปรุงโรงเลี้ยงสัตว์จำนวนไม่ต่ำกว่า 20,000 ตัว และโรงชำแหละเนื้อสัตว์เพื่อการส่งออกกำลังการผลิตไม่ต่ำกว่า 4,000 ตัวต่อเดือน ณ กรุง Kyiv จำนวนเงินลงทุนทั้งหมดประมาณ 44 ล้านเหรียญสหรัฐฯ กำหนดระยะเวลาเริ่มดำเนินงานภายใน 2 ปี

2.2 โครงการลงทุนภาคการก่อสร้าง  ประกอบด้วย 2 โครงการนำร่อง ได้แก่

  • โครงการ Gypsum based mixes production plant เป็นโครงการก่อสร้างโรงงานผลิตสินค้าและผลิตภัณฑ์ Gypsum based กำลังการผลิตไม่น้อยกว่า 60,000 ตันต่อปี (ประมาณร้อยละ 5 ของสินค้าที่ผลิตทั้งหมดในตลาดยูเครน) ก่อสร้าง ณ กรุง Kyiv ด้วยจำนวนเงินลงทุนทั้งหมดประมาณ 5.7 ล้านเหรียญสหรัฐฯ กำหนดระยะเวลาเริ่มดำเนินงานภายใน 1 ปี
  • โครงการ Float glass facility เป็นการก่อสร้างโรงงานผลิตกระจก กำลังการผลิตไม่น้อยกว่า 18 ล้านตารางเมตรต่อปี พื้นที่เป้าหมายในภูมิภาค Kirovohrad ทางภาคกลางของยูเครน จำนวนเงินลงทุนทั้งหมดประมาณ 250 ล้านเหรียญสหรัฐฯ กำหนดระยะเวลาเริ่มดำเนินงานภายใน 3 ปี

2.3 โครงการลงทุนภาคคมนาคมและขนส่ง  ประกอบด้วย 2 โครงการนำร่อง ได้แก่

  • โครงการ Logistics hubs cluster ซึ่งเป็นการก่อสร้างศูนย์กลางขนส่งสินค้าและคลังสินค้า ขนาดพื้นที่ 700,000 ตารางเมตร ใน 4 เมืองหลักของยูเครน ได้แก่ กรุง Kyiv (400,000 ตารางเมตร) เมือง Lviv (150,000 ตารางเมตร) เมือง Dnipro (50,000 ตารางเมตร) และเมือง Odesa (100,000 ตารางเมตร) จำนวนเงินลงทุนทั้งหมดประมาณ 450 ล้านเหรียญสหรัฐฯ กำหนดระยะเวลาเริ่มดำเนินงานภายใน 3 ปี
  • โครงการ Warehouse complex ซึ่งเป็นการก่อสร้างคลังสินค้า ขนาดพื้นที่ 70,000 ตารางเมตร ณ กรุง Kyiv จำนวนเงินลงทุนทั้งหมดประมาณ 34 ล้านเหรียญสหรัฐฯ กำหนดระยะเวลาเริ่มดำเนินงานภายใน 1.5 ปี

 

ความเห็น/ข้อสังเกต

1. ทิศทางและแนวโน้มทางเศรษฐกิจของยูเครนในช่วงภาวะสงครามที่เริ่มมีการขยายตัวในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 2565 นั้น ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากภาคเอกชนผู้ประกอบการและองค์กรทางด้านธุรกิจของยูเครนที่ยังคงดำเนินธุรกิจมาอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับการสนับสนุนและความช่วยเหลือจากภาครัฐ อาทิ การลดหย่อนภาษี และการออกสินเชื่อในอัตราดอกเบี้ยต่ำ เพื่ออำนวยความสะดวกและผลักดันให้เกิดการเคลื่อนไหวทางเศรษฐกิจในประเทศ

2. ในช่วงระยะเวลา 1 ปีของภาวะสงครามในยูเครน มีผู้ประกอบการขอจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทใหม่ในยูเครนถึง 208,936 ราย โดยส่วนใหญ่เป็นกลุ่มบริษัทขนาดใหญ่ ขณะที่กลุ่มบริษัท SMEs มีการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทจำนวนประมาณ 32,000 ราย ปัจจุบัน มีจำนวนบริษัทที่จดทะเบียนและเปิดทำการในยูเครนทั้งหมดประมาณ 1.2 ล้านราย ซึ่งมีจำนวนมากกว่าจำนวนบริษัทที่ปิดตัวลงในช่วงภาวะสงครามถึง 5.6 เท่า (บริษัทที่ปิดตัวลงในปี 2565 มีจำนวนประมาณ 203,921 ราย) ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมั่นใจของผู้ประกอบการถึงแนวโน้มและทิศทางที่ดีของเศรษฐกิจของยูเครน

3. รัฐบาลยูเครนได้รับฟังความเห็นของผู้ประกอบการและองค์กรธุรกิจภาคเอกชนซึ่งผลักดันให้เกิดการเจรจาสร้างความร่วมมือระดับทวิภาคีและการสนับสนุนจากองค์กรระหว่างประเทศ อาทิ สหภาพยุโรป ธนาคารโลก ประเทศพันธมิตร และกองทุน IMF เป็นต้น โดยล่าสุดประเทศพันธมิตรหลักอย่างโปแลนด์ เตรียมจัดสัมมนา Rebuild Ukraine : Powered by Energy ครั้งที่ 2 ณ กรุงวอร์ซอ ในเดือนพฤศจิกายน 2566 นี้ เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการนักลงทุนในสาขาพลังงานทั้งจากสหภาพยุโรปและประเทศที่สามที่ต้องการขยายการลงทุนในยูเครนเข้าร่วมงาน (การสัมมนาครั้งที่ 1 จัดขึ้นเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2566 ที่ผ่านมา)

4. นอกเหนือจากโครงการนำร่องตามนโยบายฟื้นฟูเศรษฐกิจของรัฐบาลยูเครนแล้ว ยูเครนยังคงเปิดรับการลงทุนจากต่างประเทศในภาคอุตสาหกรรมสำคัญที่มีศักยภาพของยูเครน อาทิ เช่น อุตสาหกรรมการผลิต อุตสาหกรรมอาหาร อุตสาหกรรม IT อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า และอุตสาหกรรมอากาศยาน เป็นต้น โดยมีการกำหนดสิทธิพิเศษแตกต่างกันออกไปตามประเภทของการลงทุน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นมาตรการลดหย่อนภาษีในระยะยาวตั้งแต่ 2–10 ปี เป็นต้น โดยมี Ukraine Invest ซึ่งเป็นองค์กรส่งเสริมการลงทุนของยูเครนเป็นผู้รับผิดชอบหลัก ทั้งนี้ สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.ukraineinvest.gov.ua

 

ที่มา:

1. Ukraine Invest
2. National Bank of Ukraine
3. European Business Association, Ukraine

de_DEGerman