ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ตลาดรถยนต์ในออสเตรเลียเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงหลายประการ จากผลกระทบด้านห่วงโซ่การผลิตในช่วงวิกฤต COVID-19 ที่มีผลให้ปริมาณรถยนต์ใหม่ในตลาดไม่เพียงพอกับความต้องการในตลาดทำให้ราคารถยนต์เก่าพุ่งสูงขึ้น ปัจจุบันการผลิตรถยนต์เข้าสู่ภาวะปกติ ตลาดรถยนต์ใหม่ออสเตรเลียจึงมีการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ส่งผลให้ยอดนำเข้ารถยนต์ใหม่จากต่างประเทศเติบโตอย่างต่อเนื่อง (ขยายตัวต่อเนื่อง 14 เดือนติดต่อกัน) เพื่อตอบสนองความต้องการซื้อรถยนต์ใหม่ของชาวออสเตรเลียที่สูงขึ้นหลังวิกฤต COVID-19 ทำให้ตลาดรถยนต์มือสองซบเซาและราคารถยนต์ตกลงอย่างรวดเร็ว
แม้ว่า โดยภาพรวมยอดขายรถยนต์ใหม่ช่วง 6 เดือนแรก 2567 มีจำนวน 632,412 คันเพิ่มขึ้นร้อยละ 8.7 (เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนหน้า) โดยมีความต้องการซื้อรถยนต์ SUV และรถกระบะที่เป็นแรงขับเคลื่อนหลัก อย่างไรก็ตาม การเติบโตของตลาดรถยนต์ใหม่ในออสเตรเลียเริ่มได้รับผลกระทบจากปัญหาภาวะเงินเฟ้อที่สร้างความกดดันทางการเงินต่อภาคครัวเรือนออสเตรเลียอย่างยาวนาน โดยเฉพาะราคาค่าประกันภัยรถยนต์ ราคาน้ำมัน อัตราดอกเบี้ยที่ยังอยู่ในระดับสูง ทำให้ยอดขายรถยนต์ใหม่เดือนมิถุนายน 2567 (ซึ่งเป็นเดือนที่มียอดขายรถยนต์สูงสุดของปี) มีจำนวน 119,659 คันลดลงร้อยละ 4.2 (เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันปี 2566) และเป็นการซื้อยอดขายรถยนต์ใหม่ที่ลดลงในทุกรัฐ ส่วนใหญ่เป็นการลดลงของยอดขายรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยพลังงานเชื้อเพลิง (เบนซิลและดีเซล) รวมถึงรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็ก (ลดลงร้อยละ 8.8 เทียบกับเดือนเดียวกันปีก่อนหน้า) เนื่องจากชาวออสเตรเลียนิยมซื้อรถยนต์ SUV (ทั้งประเภท Hybrid และ EV) มากขึ้น ด้วยเหตุผลหลัก คือ รถยนต์ Hybrid เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในช่วงการเปลี่ยนผ่านสู่การใช้รถยนต์พลังงานสะอาด เนื่องจากออสเตรเลียยังขาดความพร้อมด้านระบบโครงสร้างพื้นฐานในการรองรับการเติบโตของรถยนต์ไฟฟ้า
สำหรับตลาดรถยนต์มือสอง ข้อมูลจากธนาคาร Westpac แผนกสินเชื่อรถยนต์ ระบุว่า ในรอบ 2 ปีที่ผ่านมา จำนวนครัวเรือนออสเตรเลียที่มียอดค้างชำระค่างวดรถยนต์เพิ่มขึ้นถึง 2 เท่า (ค้างชำระมากกว่า 90 วันจากวันครบกำหนด) โดยนาย Peter Esho นักเศรษฐศาสตร์ แสดงความเห็นว่า ผลกระทบจากความกดดันด้านค่าครองชีพทำให้ชาวออสเตรเลียเลือกที่จะค้างชำระค่างวดรถยนต์มากกว่าค่าผ่อนบ้าน การค้างผ่อนชำระสินเชื่อของภาคครัวเรือนที่เพิ่มขึ้น มีผลให้ตลาดรถยนต์มือสองมีตัวเลขการยึดรถยนต์จากลูกหนี้ของบริษัทบริการทางการเงินเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เพิ่มขึ้นร้อยละ 11 ในช่วงไตรมาสเดือนมิถุนายนและร้อยละ 13 ในรอบ 6 เดือน 2567 (ข้อมูลจากศูนย์ประมูลรถยนต์ Pickles) อีกทั้ง บางครัวเรือนยอมขายรถยนต์ในราคาถูกเพื่อลดภาระทางการเงิน เนื่องจากรถยนต์เป็นสินค้าที่มีความเสื่อมสภาพเร็วและยากต่อการรีไฟแนนท์
นาย James Voortman ผู้บริหารระดับสูงของสมาคมศูนย์จำหน่ายรถยนต์ออสเตรเลีย (Australian Automotive Dealer Association) เปิดเผยว่า ปัจจุบันชาวออสเตรเลียยังมีความจำเป็นต้องใช้รถยนต์ในการเดินทางไปทำงาน แต่ปัญหาค่าครองชีพที่สูงและการขาดสภาพคล่องทางการเงิน ทำให้รถยนต์ราคาถูกเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด และเป็นปัจจัยบวกต่อผู้ผลิตรถยนต์ที่เน้นการทำตลาดด้านราคา ซึ่งส่วนใหญ่เป็นรถยนต์ที่ผลิตจากจีนแบรนด์ต่างๆ ได้รับความนิยมมากขึ้น เช่น LDV, Great Wall Motor (GWM) MG และ Haval มีสัดส่วนตลาดรถยนต์ในออสเตรเลียเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว สะท้อนให้เห็นว่า ตลาดรถยนต์ใหม่ในออสเตรเลียยังมีอุปสงค์ในตลาดสูง แต่ได้เปลี่ยนไปสู่ความต้องการซื้อรถยนต์ทางเลือกที่ยั่งยืน (Hybrid และรถไฟฟ้า) ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของครัวเรือนและมีราคาที่สามารถเข้าถึงได้มากขึ้น
นอกจากนี้ บริษัทผู้นำเข้ารถยนต์ใหม่รายใหญ่ในออสเตรเลีย อาทิ บริษัท Eagers Automotive (มีศูนย์จำหน่ายรถยนต์ 361 แห่งทั่วประเทศ) บริษัท Toyota Australia บริษัท Ford และบริษัท Cupra คาดการณ์ ตลาดรถยนต์ใหม่ในออสเตรเลียว่ากำลังเข้าสู่ภาวะอิ่มตัวภายในสิ้นปี 2567 และมีแนวโน้มปรับลดลงในอนาคตอันใกล้
………………………………………………………………………………………………..
Königlich Thail. Generalkonsulat, Büro für internationale Handelsförderung in Sydney-Stadt
ที่มา:
FCAI
www.drive.com.au
www.theguardian.com