สงครามภาษีการค้าสหรัฐฯ-จีน เสี่ยงกระทบเทศกาลคริสต์มาส

นับจากนี้เหลือเวลาอีกเพียง 8 เดือนจะถึงเทศกาลคริสต์มาส เทศกาลแห่งความสุข การมอบของขวัญ การประดับตกแต่งต้นคริสต์มาส อาคารบ้านเรือน พร้อมแสงสี ซึ่งปัจจุบันสินค้านานาชนิดในกลุ่มอุตสาหกรรมของประดับตกแต่งและของใช้สำหรับเทศกาลคริสต์มาสที่วางจำหน่ายในตลาดสหรัฐอเมริกา ล้วนเป็นสินค้าที่นำเข้าจากต่างประเทศ โดยเฉพาะมีการนำเข้าจากประเทศจีนมากที่สุดเป็นอันดับ 1 คิดเป็นสัดส่วนเกือบร้อยละ 90

โดยทั่วไปเดือนเมษายนจะเป็นเดือนที่ผู้ประกอบการสหรัฐฯ มีคำสั่งซื้อสินค้าของประดับตกแต่งและของใช้สำหรับเทศกาลคริสต์มาสกับโรงงานผลิตในประเทศจีน เพื่อว่าจ้างการผลิตและพร้อมจัดส่งมอบสินค้าให้ทันกับการจำหน่ายในช่วงเทศกาลคริสต์มาสที่จะมาถึงสำหรับสินค้าในกลุ่มนี้ที่สหรัฐฯ มีการนำเข้าจากจีน มีตั้งแต่ต้นคริสต์มาสเทียม ของประดับตกแต่งต้นคริสต์มาส อาคารบ้านเรือน ของใช้บนโต๊ะอาหาร ในครัว รวมไปถึงหลอดไฟประดับ เป็นต้น แต่ทว่าในปีนี้ ผลกระทบจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ซึ่งจีนไม่ได้รับการชะลอการเก็บภาษีตอบโต้เป็นระยะเวลา 90 วันดังเช่นประเทศคู่ค้าอื่นๆ ของสหรัฐฯ ที่ได้ทำการนัดหมายการเจรจา แต่ถูกสหรัฐฯ ตอบโต้ด้วยอัตราภาษีร้อยละ 145 (ณ วันที่ 18 เมษายน 2568) ส่งผลต่อคำสั่งซื้อซึ่งโรงงานผลิตในประเทศจีนในขณะนี้ไม่ได้รับคำสั่งซื้อใดๆ จากผู้ประกอบการสหรัฐฯ อีกทั้งผู้ประกอบการสหรัฐฯ บางรายได้ทำการยกเลิกคำสั่งซื้อไปบ้างแล้ว

หากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ยังคงยืดเยื้อต่อไป และยังไม่มีการนัดหมายเจรจาเพื่อหาข้อตกลงเป็นที่พอใจทั้งสองฝ่าย นอกจากจะส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการจีนที่ต้องเผชิญกับวิกฤตทางธุรกิจแล้ว ยังสุ่มเสี่ยงต่อการสูญเสียส่วนแบ่งในตลาดสหรัฐฯ สำหรับกลุ่มสินค้าของใช้และของประดับตกแต่งเทศกาลคริสต์มาส อีกทั้งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในช่วงเทศกาลคริสต์มาสในปีนี้ โดยนาย Jami Warner ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารของสมาคมต้นคริสต์มาสแห่งอเมริกา (American Christmas Tree) ได้แสดงความคิดเห็นว่า เทศกาลคริสมาสต์ปีนี้ คาดว่าผู้บริโภคชาวอเมริกันจะได้รับผลกระทบต่อค่าใช้จ่าย ด้วยการซื้อสินค้าในราคาแพงขึ้น จากราคาต้นคริสต์มาสเทียมต้นละ 500 เหรียญสหรัฐ ราคาจะปรับเพิ่มขึ้นสองเท่าตัว โดยจะมีราคากว่า 1,000 เหรียญสหรัฐ

นอกจากนี้ สมาคมฯ แจ้งว่า ค่าใช้จ่ายของผู้บริโภคชาวอเมริกันสำหรับการซื้อสินค้าของประดับตกแต่งเทศกาลคริสต์มาส ในปัจจุบันมีค่าใช้จ่ายโดยเฉลี่ยคิดเป็นเงิน 261 เหรียญสหรัฐ แต่เนื่องจากสถานการณ์ในปัจจุบันที่อัตราภาษีตอบโต้อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ จึงเป็นภารกิจที่ยากลำบากสำหรับสมาคมฯ ในการจัดทำการประเมินคาดการณ์ผลกระทบที่มีต่อค่าใช้จ่ายของผู้บริโภคชาวอเมริกันในช่วงเทศกาลคริสต์มาสที่จะมาถึง

ตลาดสินค้าของใช้และของประดับตกแต่งเทศกาลคริสต์มาสในสหรัฐฯ เป็นอีกหนึ่งกลุ่มสินค้านำเข้าที่สหรัฐฯ มีการพึ่งพาโรงงานผลิตในประเทศจีนเป็นอย่างมาก โดยในปี 2566 สหรัฐฯ มีการนำเข้ากลุ่มสินค้าดังกล่าวจากจีน เป็นมูลค่า 2.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 88 โดยเฉพาะสินค้าต้นคริสต์มาสเทียมเป็นสินค้าที่สหรัฐฯ ไม่ได้มีการผลิตภายในประเทศในระดับขนาดใหญ่ นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มสินค้าหลอดไฟ LED สำหรับประดับต้นคริสต์มาสซึ่งสหรัฐฯ มีการนำเข้าจากประเทศกัมพูชาจำนวนมากถึงร้อยละ 66 ซึ่งกัมพูชาถูกสหรัฐฯ จัดเก็บอัตราภาษีตอบโต้ร้อยละ 49 ก่อนหน้ามีคำประกาศการชะลอการเก็บภาษีออกไป 90 วัน

อย่างไรก็ดี สงครามภาษีการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน มิใช่เป็นเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นเป็นครั้งแรก แต่ก่อนหน้านี้ในช่วงรัฐบาลทรัมป์ 1.0 สหรัฐฯ เคยขู่การขึ้นภาษีนำเข้าจากจีนสำหรับกลุ่มสินค้าของใช้ของประดับตกแต่งเทศกาลคริสต์มาสมาก่อนแล้ว แต่ทว่าในปี 2562 นโยบายดังกล่าวถูกหยุดชะงักไปด้วยเกรงว่า จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในช่วงเทศกาลคริสต์มาส

บทวิเคราะห์

แม้จีนเป็นผู้ครองส่วนแบ่งตลาดสินค้ากลุ่มของประดับตกแต่งและของใช้สำหรับเทศกาลคริสต์มาสในตลาดสหรัฐฯ มากที่สุดเป็นอันดับ 1 โดยในปี 2567 สหรัฐฯ นำเข้าสินค้าในกลุ่มสินค้าที่เกี่ยวข้องกับเทศกาลคริสต์มาส คิดเป็นมูลค่า 4.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ โดยมูลค่า 4.3 พันล้านเหรียญ เป็นสินค้าที่นำเข้าจากจีน แต่ด้วยสถานการณ์ของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ณ ขณะนี้ ยังคงยืดเยื้อ และด้วยปัจจัยด้านอัตราภาษีตอบโต้ที่สูงลิ่ว อีกทั้งการเจรจาการค้ายังมิได้กำหนดขึ้น และยังต้องใช้เวลาในการเจรจาเพื่อบรรลุข้อตกลงจนเป็นที่พอใจของทั้งสองฝ่าย ปัจจัยเหล่านี้ล้วนส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจของผู้ประกอบการสหรัฐฯ ที่ไม่มีการสั่งซื้อสินค้าจากจีน และได้มีการยกเลิกคำสั่งซื้อสินค้า ซึ่งส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจของผู้ประกอบการจีน และการสูญเสียส่วนแบ่งตลาดในสหรัฐฯ แต่กลับเป็นโอกาสของประเทศอื่นๆ รวมทั้งไทยที่ผู้ประกอบการสหรัฐฯ หันไปแสวงหาแหล่งนำเข้าจากประเทศอื่นๆ เพื่อเป็นการทดแทนในการเพิ่มส่วนแบ่งตลาดในสหรัฐฯ ไม่มากก็น้อย

สินค้าศักยภาพของไทยที่มีโอกาสในการเพิ่มส่วนแบ่งตลาดในสหรัฐฯ อาทิ ของประดับตกแต่งต้นคริสต์มาส (Ornaments) ของใช้ในบ้าน ในครัวเรือนที่เกี่ยวข้องกับเทศกาลฯ ดอกไม้ประดิษฐ์ ต้นคริสต์มาสเทียม แก้ว (Mug) ถ้วยชาม ผลิตภัณฑ์พลาสติก และเซรามิค เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ปัจจัยที่จะสนับสนุนการเพิ่มส่วนแบ่งในตลาดของไทยในตลาดสหรัฐฯ นอกจากปัจจัยด้านราคา และคุณภาพสินค้าแล้ว ยังมีปัจจัยด้านอัตราภาษีนำเข้า (อัตราใหม่) ที่ขึ้นกับผลการเจรจาบรรลุข้อตกลงระหว่างสหรัฐฯ และไทยในครั้งนี้ รวมทั้งปัจจัยด้านผลการเจรจาของประเทศคู่แข่งขันของไทย ว่าอัตราภาษีนำเข้าของประเทศไทยจะได้เปรียบ หรือเสียเปรียบคู่แข่งขัน ล้วนมีผลต่อการพิจารณาหาแหล่งนำเข้าใหม่ของผู้ประกอบการสหรัฐฯ ในการสั่งซื้อสินค้า

de_DEGerman